ข้อดีของการเป็นเว็บไซต์ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ทำ SEO แล้วรุ่ง

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นเทคนิคการตลาดที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน ทั้งเว็บไซต์ของบริษัทขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างล้วนได้ประโยชน์ทั้งด้านยอดขายและจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากที่ทำเว็บไซต์ขนาดเล็ก อาจมีความกังวลว่าจะสามารถแข่งขันกับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ได้อย่างไร

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมข้อดีที่เว็บไซต์รายย่อยมี หากทำ SEO แล้วจะรุ่ง เพื่อเสริมความมั่นใจให้นักธุรกิจหน้าใหม่หรือรายเล็กหันมาพัฒนา SEO ให้กับเว็บไซต์มากขึ้น

1. เป็นเว็บไซต์ขนาดเล็ก มีการมีความยืดหยุ่นในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงมากกว่าเว็บไซต์ขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ต้องผ่านการคิดวิเคราะห์ รอการอนุมัติอีกหลายขั้นตอน เว็บไซต์ขนาดเล็กที่พร้อมปรับปรุงเว็บไซต์ตามหลัก SEO ตลอดเวลา จึงมีผลดีต่อการเปลี่ยนแปลงของอันดับ SEO ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

2. การใช้ Keyword ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น สำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็ก สามารถปรับเปลี่ยน Keyword จากทั่วไปที่เป็นคำสั้น ๆ มาเป็นวลีที่มีความยาว ซึ่งจะตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจากแนวคิดของบริษัทเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่เน้นขายสินค้าเพื่อคนส่วนใหญ่ จึงมักใช้ Keyword กว้าง การใช้ Keyword ที่เหมาะสมและตรงกับการสืบค้นของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง จึงทำให้มีเปอร์เซ็นต์การขายได้สูงขึ้นอย่างชัดเจน

3. ผลิตบทความคุณภาพได้หลากหลายแนว มีความทันสมัยและดึงดูดใจได้มากกว่า เพราะสามารถที่จะเขียนด้วยตัวเองหรือเลือก Freelance ที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเลือกทีมผลิตสื่อภาพ เสียงและคลิปวีดีโอประกอบในเว็บไซต์ ที่นักธุรกิจรายเล็กสามารถที่จะเลือกทีมงานได้ง่าย ๆ โดยดูจากผลงานที่ตรงใจ โดยไม่ต้องรอการอนุมัติหรือประชุมอีกหลายขั้นตอน

4. การประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ ผ่านการพูดคุยในห้องพันทิปหรือ Facebook สามารถทำได้ด้วยตัวนักธุรกิจผู้เป็นเจ้าของเว็บไซต์เอง สร้างภาพลักษณ์ที่จริงใจและเป็นกันเอง จึงมีโอกาสได้รับการสนับสนุนมากกว่าการประชาสัมพันธ์แบบเป็นกิจจะลักษณะทางสื่อโฆษณาที่เน้นการเข้าถึงคนกลุ่มใหญ่

5. การเลือกหรือปรับเปลี่ยน Web Hosting ที่เหมาะสม ผู้ทำเว็บไซต์รายย่อยสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว หากเกิดปัญหาเว็บไซต์ล่ม หรือใช้เวลาดาวน์โหลดข้อมูลนานจนเสียลูกค้าให้ผู้ประกอบการรายอื่น ต่างจากเว็บไซต์บริษัทใหญ่ที่ต้องรอการแก้ไขและพิจารณาหลายขั้นตอนกว่าจะได้ข้อสรุป

จากข้อดีของเว็บไซต์ขนาดเล็กที่กล่าวมา นับว่าเป็นจุดเด่นที่หากนำไปประยุกต์ใช้และมีการทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้นักธุรกิจรายย่อยทุกกลุ่มสินค้ามีอำนาจในการแข่งขันทางธุรกิจได้ดีขึ้น ขอเพียงมีความสม่ำเสมอในการพัฒนาเว็บไซต์และหมั่นอัปเดตสาระใหม่ ๆ เป็นประจำ ก็จะทำให้มียอดขายและจำนวนลูกค้าใกล้เคียงกับเว็บไซต์ธุรกิจขนาดใหญ่ได้อย่างแน่นอน

ข้อดีของการเป็นเว็บไซต์ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ทำ SEO แล้วรุ่ง

อุปสรรคสำคัญในการทำ SEO

อุปสรรคสำคัญในการทำ SEO

สิ่งที่มักจะเป็นปัญหาในการทำ SEO นั้น มักจะเป็นการที่ข้อมูลสร้างขึ้นเข้าไม่ถึงกลุ่มคนที่ต้องการเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้มาตรฐานที่ Google กำหนด ทำให้ไม่ติดหน้าแรกเพราะขาดองค์ประกอบหลายอย่างที่จะทำให้บทความนั้นสมบูรณ์ ดังนั้นก่อนที่จะทำระบบ SEO จะต้องศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อนเริ่มจากกลุ่มลูกค้า ต่อมาคือ ระบบการทำงานของ SEO ซึ่งอุปสรรคปัญหาที่มักจะพบบ่อยมีดังต่อไปนี้

ข้อมูลที่เขียนเป็นข้อมูลซ้ำ

ข้อมูลซ้ำเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าหลายครั้งด้วยกันที่โลกนี้ไม่ได้มีเรื่องราวใหม่เกิดขึ้นมากนัก เราเพียงนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ให้เข้ากับผู้คนสถานการณ์ตามความต้องการและการใช้งาน สิ่งที่คนเราทำได้นั้นคือการใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไปเพื่อให้เกิดความแตกต่างเฉพาะตัว

ขาดชื่อเรื่องและคำอธิบาย (Title tag and Description)

การที่ทำข้อมูลขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) จากนั้น AI จะทำการประมวลผลและ AI จะเข้าใจได้เมื่อมีคำอธิบายขยายความ ดังนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการสื่อสารแบบคอนเทนต์คือ การมีหัวข้อที่ดีตามด้วยคำอธิบายสิ่งที่ต้องการสื่อสารเพื่อให้เป็นคอนเทนต์ที่สมบูรณ์และ รองรับฐานข้อมูลที่ Google ต้องการ

ลิงก์เสีย (Broken URLs)

หากเว็บไซต์ใดที่ขาดการอัพเดทข้อมูลเป็นเวลานาน เว็บไซต์นั้นอาจมีผลกระทบต่อการค้นหาของ Google ดังนั้นจะต้องทำการอัพเดทและพัฒนาข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดข้องในการค้นหาข้อมูลซึ่งลิงก์เสียนั้นจะทำให้การค้นหาหายไปไม่สามารถค้นหาได้เกิดจากการที่เว็บไซต์มีปัญหา

ไม่ติดหน้าแรกในการค้นหา

การที่ไม่ติดหน้าแรกในการค้นหา ก็จะทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่ต้องการสื่อสารได้ ผู้พัฒนาจะต้องทำการศึกษาระบบการทำ SEO การทำการตลาดการปรับแต่งเว็บไซต์การทำให้ข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ได้มาตรฐานเป็นประโยชน์มากขึ้น โดยจะต้องอาศัยการทำคีย์เวิร์ดเข้ามาช่วยให้การค้นหานั้นง่ายขึ้น

เกิดจาก Flash ที่ใช้ในการทำเว็บ

ปัจจุบัน การใช้ Flash ในการทำเว็บนั้นไม่เหมาะในการทำ SEO แล้วเนื่องจากในการ Search Engine ไม่สามารถที่จะทำการบันทึกข้อมูล แม้ว่าการใช้ Flash จะมีการพัฒนามากมายก็ตาม แต่ก็ยังมีเทคนิคอื่นที่สามารถใช้แทนได้และหากเว็บไซต์นั้นเป็นเว็บไซต์ที่น่าสนใจมากพอก็จะง่ายในการทำ SEO ดังนั้นสิ่งสำคัญคือความคิดสร้างสรรค์และการสร้างความแตกต่างนั่นเอง

ระบบการทำงานของ SEO

จากการทำ SEO มีองค์ประกอบมากมายด้วยกัน ผู้พัฒนาจะต้องรู้สิ่งที่เป็นอุปสรรคเพื่อรับมือและปรับเปลี่ยนแก้ไขให้เข้ากับสถานการณ์การใช้งานที่เปลี่ยนไปของระบบการทำ SEO ทั้งนี้การป้อนข้อมูลระบบที่เชื่อมต่อกับ Google เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการสร้างคอนเทนต์คือ การสร้างข้อมูลที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้ชมเว็บไซต์ มีหัวข้อพร้อมคำอธิบายที่ตรงประเด็น

กลยุทธ์การคิดต่าง ทำ SEO สร้างแบรนด์ให้โดดเด่น

กลยุทธ์การคิดต่าง ทำ SEO สร้างแบรนด์ให้โดดเด่น

โลกธุรกิจยุคปัจจุบันแข่งขันกันลำบากขึ้นทุกที ต้องงัดกลยุทธ์แย่งชิงลูกค้าจากคู่แข่งมาเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องรัดเข็มขัดประหยัดต้นทุนกันสุดฤทธิ์ เรื่องที่จะทุ่มงบประมาณโฆษณาก้อนใหญ่ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ดูแล้วไม่คุ้มค่า ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่จำเป็นต้องมองหาความแตกต่างเพื่อให้แบรนด์ตนเองโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งจำนวนมาก การทำ SEO จึงต้องอัดความคิดสร้างสรรค์เข้าไปในการทำตลาดออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการเขียนคอนเทนต์หรือการออกแบบเว็บไซต์ ทำให้คนสนใจเข้าเยี่ยมชมเว็บมากขึ้นและให้ผลลัพธ์ในการค้นหาทาง Google ได้อันดับดีที่สุด

กลยุทธ์แรกคือการคิดต่างในเรื่องคีย์เวิร์ด

ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในบทความ แน่นอนว่าเนื้อหาของบทความต้องเขียนดีมีคุณภาพ แต่คีย์เวิร์ดเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้กระบวนการค้นหาง่ายและรวดเร็ว คนส่วนใหญ่จะเริ่มจากคีย์เวิร์ดง่าย ๆ เช่น “โทรศัพท์มือถือ” แต่การคิดต่างในเรื่องคำจะช่วยให้ได้ลูกค้าตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ เช่น “สมาร์ทโฟน มือสอง” “สมาร์ทโฟน มือสอง ราคาถูก” “สมาร์ทโฟน ราคา ถูก” ผู้เชี่ยวชาญการตลาดจะรู้ว่าคำเหล่านี้จะให้ผลลัพธ์การค้นหาที่แตกต่างออกไป เป็นการแสดงจุดยืนของตนเองเพื่อให้ลูกค้าที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมเว็บและมีแนวโน้มตัดสินใจซื้อง่าย บางครั้งลูกค้าไม่รู้ว่าจะมองหาอะไร การคิดคีย์เวิร์ดไว้หลายแบบจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าพบทางเลือกที่ตนพอใจ

กลยุทธ์ที่สองคือการใช้สื่อโฆษณาแบบผสมผสาน

การทำเว็บไซต์อาจต้องปรับรูปแบบใหม่ ซึ่งปกติการทำเว็บจะยึดหลักความน่าเชื่อถือและใช้รูปแบบการเขียนที่เป็นทางการ เนื้อหาบทความมีประโยชน์และค่อนข้างยาว ซึ่งไม่รองการอ่านบนหน้าจอมือถือ การคลิกส่วนขยายเพื่อเปิดเนื้อหาที่ซ่อนไว้อาจไม่ใช่วิธีเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อ่านหนังสือน้อยลง ทางเลือกที่ดีคือสร้างลิงก์กับโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Facebook ที่คนรุ่นใหม่เช็คข้อมูลข่าวสารกันทุกวัน ควรปรับเนื้อหาบทความให้กระชับ ใช้ถ้อยคำที่เป็นกันเอง และชวนอ่านมากขึ้น พร้อมกับใส่ลิงก์ย้อนกลับไปที่เว็บไซต์เพื่อให้ผู้สนใจจริง ๆ คลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติม สไตล์การเขียนใน Facebook มักจะแปลก ใหม่ ทันสมัย กระตุ้นความสนใจจากลูกค้าได้ดี หากเนื้อหาตรงกับที่ต้องการจะมีกดแชร์แบ่งปันข้อมูลกันอ่านและได้รับความสนใจมากกว่าคู่แข่ง ซึ่งมีประโยชน์ต่อการทำ SEO เพิ่มจำนวนคนเข้าเยี่ยมเว็บไซต์อย่างรวดเร็วกลยุทธ์แรกคือการคิดต่างในเรื่องคีย์เวิร์ด

กลยุทธ์ที่สามคือปรับสไตล์การเขียน

ทุกวันนี้การทำ SEO มีความผิดพลาดบ่อย ๆ เกิดจากความเข้าใจผิดที่ว่าต้องโฟกัสไปที่คีย์เวิร์ด เลือกคำเด็ดโดนใจทำให้คนสนใจคลิกเข้ามาอ่านมาก ซึ่งความจริงแล้วถูกแค่ครึ่งเดียว ส่วนการเขียนเนื้อหาคอนเทนต์มีคุณภาพ น่าอ่าน ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ ก็ถูกแค่ครึ่งเดียวเหมือนกัน ผู้เขียนคอนเทนต์ต้องวิเคราะห์เจาะลึกถึงจุดเด่นของธุรกิจ แสดงจุดแข็งของแบรนด์ มีดีตรงไหน เหมาะกับลูกค้ากลุ่มไหน เพื่อนำมาเขียนด้วยสไตล์ที่แตกต่างจากบทความอื่น ๆ กระตุ้นให้คนสนใจแบรนด์และตัดสินใจซื้อในที่สุด ก่อให้เกิดรายได้ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์แท้จริงนั่นเอง

หลักการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพต้องใช้ง่ายบนมือถือ

หลักการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพต้องใช้ง่ายบนมือถือ

ทุกวันนี้เปอร์เซ็นต์การใช้โทรศัพท์มือถือค้นหาข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เลือกซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ธุรกิจออนไลน์ต้องออกแบบเว็บไซต์ที่เหมาะกับมือถือ ลองใส่ URL ของหน้าเว็บและคลิกที่มือถือ เป็นการทดสอบง่ายๆ ซึ่งจะเห็นได้ทันทีว่าหน้าเว็บของคุณเหมาะกับอุปกรณ์พกพาหรือไม่ วันหนึ่งจำนวนการใช้มือถือจะแซงหน้าคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป เพราะอย่างนี้การออกแบบหน้าเว็บให้รองรับการใช้งานบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือจึงมีความสำคัญ การออกแบบเว็บไซต์มีคุณภาพสูงแต่ไม่อยู่ในอันดับแรกๆ ของผลการค้นหาก็อาจเป็นเพราะเว็บไซต์ไม่เหมาะกับอุปกรณ์พกพานั่นเอง

เจ้าของธุรกิจ ควรเรียนรู้

เจ้าของธุรกิจควรเรียนรู้วิธีการสร้างเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายบนมือถือ ปัญหาเว็บโหลดช้าทำให้ผู้เข้าชมลดลงครึ่งหนึ่งหรือมากกว่า การอ่านเนื้อหาบนหน้าจอขนาดเล็กก็เช่นกัน ส่งผลให้การเขียนคอนเทนต์ต้องปรับให้กระชับและเข้าใจเนื้อความได้ชัดเจน เนื่องจากหน้าจอเดสก์ท็อปเป็นแนวนอน ส่วนหน้าจอมือถือสูงและแคบจะต้องเลื่อนขึ้นและลง การแทรกรูปภาพและวิดีโอจะต้องไม่ลืมว่าหน้าจอมือถือเป็นอย่างไร ผู้ใช้จะดูเนื้อหาบนหน้าจออย่างไร ด้วยเหตุนี้ การเขียนชื่อเรื่องที่สั้นและชัดเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ใช้ศิลปะในการเขียนกระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจอยากรู้และคลิกเข้าอ่านบทความเพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ขณะเดียวกันควรเลือกคีย์เวิร์ดที่ตรงประเด็นที่สุดใส่เข้าไปในชื่อเรื่องและย่อหน้าแรกของบทความ การเพิ่มหัวข้อย่อยเป็นส่วนที่ทำให้หน้าเพจอ่านง่ายขึ้น สามารถใส่คีย์เวิร์ดในหัวข้อย่อยด้วยซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการทำ SEO เพราะมองเห็นได้ง่าย ทำให้การจัดอันดับหน้าเว็บของ Google สูงขึ้นไปด้วย

นอกจากการปรับปรุงเนื้อหาแล้ว ถ้าจำเป็นอาจต้องสร้างเว็บไซต์ใหม่เพื่อให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จมากที่สุด นั่นคือเคล็ดลับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณสำหรับมือถือ โครงสร้างของเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนจะทำให้โหลดช้า แตกต่างจากการปรับเว็บให้เรียบง่าย แสดงหน้าเว็บเพจต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีแถบนำทางที่ชัดเจนและไม่ทำให้ผู้ใช้สับสน มีความสนใจกับเนื้อหาบทความมากขึ้น แต่ใช้เวลาอ่านน้อยลง ตามปกติผู้ใช้มือถือมักจะไม่อ่านอะไรยาวๆ ยิ่งเขียนเนื้อหากระชับมากเท่าไรยิ่งมีพลังในการจูงใจให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นเท่านั้น

เจ้าของธุรกิจ ควรเรียนรู้

การปรับโครงสร้างเว็บไซต์ต้องงดเว้นไฟล์ภาพหรือวิดีโอขนาดใหญ่ ปรับขนาดภาพให้เหมาะสม โดยสร้างไฟล์ขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ภาพยังคมชัดบนทุกขนาดหน้าจอ ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์เปิดดูง่ายและเร็ว ตรวจสอบไฟล์วิดีโอให้แน่ใจว่าเหมาะกับมือถือ ไม่รู้สึกหงุดหงิดเวลาภาพกระตุกหรือค้าง ทำให้ผู้ใช้เสียเวลาและกดออกจากเว็บไซต์ไป เว็บไซต์ที่โหลดหน้าเว็บได้เร็วขึ้นจะมีส่วนช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของเว็บไซต์ เพราะเนื้อหาของเว็บไซต์เป็นประโยชน์ต่อผู้ค้นหา บรรดาผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจะเข้าใจรวดเร็วว่าเว็บไซต์ตอบสนองข้อมูลที่ต้องการ ทำให้จำนวนผู้เข้าชมมากขึ้น และยังส่งผลต่อการจัดอันดับที่ดีได้อย่างแน่นอน

การทำ SEO จำเป็นไหมสำหรับธุรกิจออนไลน์

การทำ SEO จำเป็นไหมสำหรับธุรกิจออนไลน์

การทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์ได้รับการประชาสัมพันธ์แบบไม่ต้องเสียเงินให้แก่ Search Engine อย่าง Google Yahoo ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมใช้ในการค้นหาสินค้าและบริการทั่วโลกจึงเป็นวิธีที่ได้ผลดีต่อธุรกิจ ที่ผู้เชี่ยวชาญในด้านการตลาดแนะนำให้ทำ

การพัฒนาเว็บไซต์ SEO

ทุกเว็บไซต์ควรทำ SEO เพื่อให้คุณภาพตรงตามข้อกำหนดของ Search Engine ในส่วนต่าง ๆ ได้แก่

– การเขียนบทความ ต้องมี Keywords ที่ตรงกับการสืบค้นของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย มีสาระประโยชน์และมีความยาวเหมาะสม

– การอัปเดตเนื้อหาเว็บไซต์เป็นประจำสม่ำเสมอ โดยมีเนื้อหาที่ทันสมัยและมีข้อมูลที่ถูกต้อง

– บทความไม่มีการใช้ Keywords ซ้ำบ่อยจนอ่านไม่รู้เรื่อง หรือเรียกว่า Keyword Stuffing

– มีการทำลิงก์เชื่อมโยงเว็บไซต์จากภายนอก หรือ Backlink เช่น การไปตอบคำถามในห้องแชทต่าง ๆ แล้วมีการแปะลิงก์ไว้เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์หลักทางธุรกิจของคุณ

การพัฒนาเว็บไซต์ด้านต่าง ๆ ที่กล่าวมา จะทำให้ระบบ Algorithm ของ Search Engine สามารถวิเคราะห์และประมวลผลได้ง่าย ซึ่งทำให้ผลการจัดอันดับในการสืบค้นนั้นดีขึ้น มีผลดีต่อยอดขายสินค้าและบริการในระยะยาวด้วย

ประโยชน์ที่จะได้จาก SEO

เมื่อทำเว็บไซต์ SEO จะได้ประโยชน์ ดังนี้

1. จะมีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าและบริการจากเว็บไซต์มากขึ้น เพราะได้รับความน่าเชื่อถือในความทันสมัยและภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท

2. ลูกค้าจะนิยมเข้ามาอ่านบทความในเว็บไซต์ และนำไปบอกต่อ เป็นการเพิ่มโอกาสในการขายให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่มีการปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ดูสวยงามและใช้งานง่าย จะทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีความประทับใจและกลับมาใช้บริการซ้ำอีก

3. การที่ลูกค้าได้ประโยชน์จากการ เข้ามาชมหรืออ่านข้อมูลในเว็บไซต์ จะทำให้เพิ่ม Traffic จากการวิเคราะห์ด้วย Algorithm แล้วทำให้อันดับยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงช่วยเป็นการประหยัดค่าประชาสัมพันธ์หรือลดการจ่ายค่าจ้างทำโฆษณาวิธีอื่น ๆ ได้

4. การที่ทำ SEO จนอันดับสืบค้นดีขึ้น จะเป็นการเพิ่มความโอกาสในการได้รับออเดอร์สั่งซื้อสินค้าและบริการได้จากทั่วประเทศและจากต่างประเทศมากขึ้น

5. เนื่องจากระบบอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงระหว่างกันตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะมีโอกาสเห็นเว็บไซต์ SEO ในอันดับบน ๆ สั่งซื้อได้อย่างสะดวก แม้เจ้าของธุรกิจจะไม่ได้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ

จากข้อดีที่กล่าวมา จึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางการตลาด จึงแนะนำว่าการทำ SEO เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ในยุคปัจจุบัน โดยการปรับปรุงทั้งเนื้อหา โครงสร้างและลิงก์ที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือจ้างบริษัทที่มีประสบการณ์ก็จะทำให้ใช้เวลาทำ SEO ที่น้อยลงได้

การทำ SEO จำเป็น สำหรับธุรกิจออนไลน์

คอนเทนต์ในเว็บเปลี่ยนไปอย่างไรหลังทำ SEO

คอนเทนต์ในเว็บเปลี่ยนไปอย่างไรหลังทำ SEO

หลายคนมีประสบการณ์เขียนบล็อกหรือทำเว็บไซต์มานาน อาจเขียนบล็อกเพราะความชอบส่วนตัว คล้ายกับบันทึกประจำวันที่มีแฟนคลับติดใจและติดตามอ่านสม่ำเสมอ หรือเขียนบทความลงเว็บไซต์เป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมทสินค้าและบริการ ก่อนหน้านั้นไม่เคยกังวลเรื่องการทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับหรือการทำ SEO ให้มองเห็นรวดเร็วและง่าย ๆ ขึ้น ต่อมาโลกอินเทอร์เน็ตเติบโตแบบก้าวกระโดด ใคร ๆ ก็เปิดเพจขายของออนไลน์ มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองง่าย ๆ บ้างก็เป็นโฮสต์ฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองต้องขยับขยายทำอะไรบางอย่างแล้ว ไม่เช่นนั้นเว็บไซต์ของเราจะแข่งขันกับใครไม่ได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ จะต้องกระตือรือร้นก้าวตามโลกเทคโนโลยีและการตลาดให้ทัน รู้ว่าการทำ SEO เป็นอย่างไร ถ้าไม่อยากให้เนื้อหาบทความดี ๆ ที่เขียนมาเป็นการเสียเปล่า เพราะจำนวนคนเข้ามาเยี่ยมชมน้อยลงทุกวัน

คุณภาพของคอนเทนต์เป็นหัวใจสำคัญ

การทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพเป็นหัวใจสำคัญ หมายถึงลีลาการเขียนที่สนุก สอดแทรกสาระความรู้ เนื้อหากระชับอ่านง่าย ถามว่าบทความบนหน้าเว็บไซต์จะเปลี่ยนไปอย่างไรหลังการทำ SEO แน่นอนว่าสไตล์การเขียนยังคงไม่แตกต่าง ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้บล็อกที่เคยเขียนไว้คลายมนต์เสน่ห์ลงไป สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือการใส่รายละเอียดเพิ่มเติม นั่นคือคีย์เวิร์ด ซึ่งเป็นคำค้นหาที่ผู้อ่าน ผู้ติดตาม หรือลูกค้า นำมาพิมพ์ลงใน Google เพื่อค้นหาสิ่งที่ตนต้องการ หากคุณเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการเกษตร อาจมี คีย์เวิร์ด เกี่ยวกับ “ศัตรูพืช” , “ปุ๋ยชีวภาพ” , “สูตรเร่งดอก” , “น้ำหมัก” , “วิถีเกษตร” , “เกษตรพอเพียง” เพราะคำเหล่านี้ถูกค้นหาบ่อย ๆ ซึ่งเราตรวจสอบได้จาก Google เพื่อเลือกคำคีย์เวิร์ดที่ควรใช้ให้มีการเชื่อมโยงถึงเว็บไซต์ของเรามากขึ้น

ข้อมูลของบทความในเชิงวิเคราะห์เจาะลึกเป็นสิ่งที่ผู้อ่านชื่นชอบเห็นพิเศษ เพราะมีเอกลักษณ์และความแตกต่าง เป็นเรื่องใหม่ ๆ มีเนื้อหาไม่ซ้ำใคร อ่านแล้วได้รับประโยชน์หรือความบันเทิง เป็นการทำตลาดคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพ ยิ่งเรานำคีย์เวิร์ดที่ดีแทรกลงไปตามจำนวนและตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้บล็อกและเว็บไซต์นั้นน่าอ่านและดึงดูดความสนใจได้ดีกว่ารูปภาพสวย ๆ หรือวิดีโอ นับเป็นเสน่ห์ของการโฆษณาแฝงอยู่ในบทความอย่างแนบเนียน เรียกว่าทำให้ลูกค้าเห็นข้อดีและตัดสินใจซื้อง่ายกว่าการดูโฆษณาขายสินค้าโดยตรง เหมือนอย่างโฆษณาของบรรดาบริษัทประกันชีวิตต่าง ๆ ทุกวันนี้ทำขึ้นโดยอาศัยเนื้อหาที่จับใจและสะเทือนอารมณ์ ซึ่งดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าการขายโดยตรง การทำคอนเทนต์ลงในบล็อกและเว็บไซต์ต้องอาศัยการทำ SEO ในลักษณะเดียวกัน บทความที่มีคุณภาพช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มากขึ้น

ข้อดีคือการทำตลาดออนไลน์มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิมมาก หากคุณใส่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า สามารถแชร์คอนเทนต์ที่น่าสนใจนั้นลงในสื่อโซเชียลได้ด้วย และทำลิงก์เชื่อมโยงกลับมายังบล็อกและเว็บไซต์ ช่วยให้มีผู้อ่านบทความมากขึ้นและเป็นการทำ SEO ให้ทาง Google จัดอันดับของเว็บให้ดีขึ้นอีกด้วย

คุณภาพของคอนเทนต์เป็นหัวใจสำคัญ

Facebook กับ SEO เกี่ยวข้องกันหรือไม่

ปัจจุบันรูปแบบการทำ SEOดูจะยากและมีหลายวิธีที่ทำให้หลายๆคนประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ เพราะปัจจัยในการทำ SEO มันมีความหลากหลาย Facebook ก็คือหนึ่งในนั้น หากเป็นการทำ SEO ในสายการขาย การตลาด เช่น เว็บขายสินค้าและอื่นๆ แน่นอนว่าการโปรโมทให้คนรู้จักเว็บไซด์คือสิ่งสำคัญ และการเข้าถึงผู้คนได้มากก็มีผลกับการค้นหา และการทำให้อันดับ SEO ของเว็บนั้นๆดีเช่นติดหน้าหนึ่งของ Google เป็นต้น

SEO-LOGO

แน่นอนว่าปัจจุบันการทำการตลาดหรือใช้ facebook

เป็นเครื่องมือตัวหนึ่งในการทำ SEO มันยากขึ้นแต่มันก็ยังมีความสำคัญในการโปรโมท เพราะทุกวันนี้หากอยากให้คนรู้จักเว็บไซด์ของเราได้ไวที่สุด ง่ายที่สุด ลงทุนน้อยทีสุด นั่นคือ Facebook และ line แต่ส่วนใหญ่ก็เลือก Facebook เป็นอันดับแรกเพราะเข้าถึงคนง่ายที่สุด สะดวกที่สุด SEOกับFACEBOOK แต่ปัจจุบันการโปรโมทต่างๆบน Facebook ดูจะยากขึ้นทุกทีเพราะระบบของมันมีการปรับโน่นนี่หลายอย่างทำให้การทำการตลาดหรือสื่อสารด้านการค้าบน Facebook เป็นเรื่องยาก ไม่จำเป็นต้องเป็นเว็บเทาๆ ก็อาจโดน Facebook แบนยูสเซอร์ แบนเพจ หรือกลุ่มที่เราทำไว้โปรโมทได้เหมือนกัน และมันส่งผลกับ SEO เพราะหากคนไม่เข้าเว็บอันดับก็ไม่ขึ้น การค้นหาตามคีย์ที่เราต้องการจะไม่มีเว็บของเราขึ้นหน้าแรกๆหรืออันดับต้นๆ ทีนี้ใครที่ว่าไม่เกี่ยวก็คงคิดว่ามันเกี่ยวกันแล้วใช่ไหมสำหรับ Facebook กับ SEO แม้จะส่วนน้อยก็ตามแต่มันคือช่องทางการโปรโมทที่ดีที่สุดที่เราจะหาได้ในตอนนี้

SEO-LOGO

แม้ว่าการทำ SEO

จะมีเทคนิคที่หลากหลายแต่หากขาดการโปรโมทเข้าถึงผู้คนกลุ่มเป้าหมายก็อาจทำให้ไม่ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน แม้ว่าเว็บเราจะมีคุณภาพ มีคอนเทนต์ดีๆ มีการทำ BL ที่เกิดผล โดเมนมีค่าดีๆ แต่หากไม่มีการโปรโมทสิ่งทีทำมาก็ไม่ได้อะไรเหมือนกัน เพราะมีลูกค้าบางกลุ่มสนใจยอดวิวมากกว่าการติดอันดับในหน้าแรกของ Google เขาไม่สนว่าคุณจะทำเก่งแค่ไหน แต่หากยอดวิวเข้าเว็บน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้มันก็เหมือนเราทำ SEO ไม่สำเร็จเพราะจำนวนคลิ๊กไม่เกิด นั่นคือปัญหาที่คนทำ SEO ส่วนใหญ่จะเจอและที่ตามมาคือมันมักอิงกับยอดต่างๆที่ลูกค้าต้องการด้วย ไม่ว่าจะเป็นการติด AD สร้างรายได้หรือการขายสินค้าของเขา และปัญหาเหล่านี้ก็เหมือนปัญหาโลกแตกแก้ไม่จบเพราะลูกค้าไม่เข้าใจ และที่นี่คือส่วนมากการโปรโมทก็มักมาคู่กับการทำ SEO ด้วยในปัจจุบันดังนั้น Facebook กับ SEO มันก็เหมือนถูกโยงเป็นส่วนหนึ่งด้วยกันนั่นเอง