รู้หรือไม่การทำ SEO รูปภาพดีอย่างไร เริ่มต้นอย่างไรดี

รู้หรือไม่การทำ SEO รูปภาพดีอย่างไร เริ่มต้นอย่างไรดี

การทำ SEO รูปภาพ คือการทำให้ Search Engine เข้าใจว่ารูปภาพบนหน้าเว็บของเราคือรูปอะไร เป็นการสร้างโอกาสให้รูปภาพดังกล่าวปรากฏบนหน้าการค้นหาในหมวดรูปภาพของ Google และรูปภาพที่ดียังช่วยให้ลูกค้าสนใจอยากเข้ามาเยี่ยมชม หรือซื้อสินค้าบนหน้าเว็บได้ดีมากขึ้นอีกด้วย โดยการมองรูปภาพของ Google และ Facebook นั้นแตกต่างกัน Google มองภาพแบบไม่เน้นสีสัน ดังนั้นรูปภาพที่มีสีสันสวยงามไม่สามารถทำให้ Google มองเห็นได้ แต่ Google จะเห็นเพียงชื่อไฟล์ หรือ Code ที่แสดงภายในภาพเท่านั้น แต่กรณีรูปภาพที่โพสต์บน Facebook ตัว bot ของ Facebook จะมองเห็นสีสัน และคาดเดาได้ว่าภาพนั้นเป็นภาพประเภทใด ทำให้รูปแต่ละประเภทจะได้คะแนนการเข้าถึง (Reach) แตกต่างกัน

ตามสถิติของ mdgadvertising.com พบว่า 60% ของลูกค้าจะให้ความสนใจกับร้านค้าที่มีสินค้าถูกแสดงบนผลการค้นหาของ Google Image และ 67% ตัดสินใจซื้อสินค้า หากรูปสินค้าสวยงาม และน่าสนใจ กล่าวคือหากรูปของสินค้าถูกแสดงบนหน้า 1 ของ Google สินค้านั้นจะมีโอกาสเพิ่มผู้เข้าชมได้มากเป็นพิเศษ จึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น

Image Optimization คือการปรับแต่งรูปภาพบนหน้าเว็บให้เกิดประสิทธิภาพต่อการค้นหาได้ดีที่สุด หรือส่งผลดีต่ออันดับ SEO ของเว็บไซต์ และสามารถทำได้หลายวิธี โดยหลักสำคัญในการทำ Image Optimization คือรูปภาพไม่ควรใช้พื้นที่เกิน 21% ของเว็บไซต์ เพราะข้อมูลประเภทรูปภาพใช้ความจุค่อนข้างมากกว่าข้อมูลประเภทบทความ ดังนั้นหากเว็บไซต์มีรูปภาพขนาดใหญ่มากเกินไป จะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ลดลงด้วย เพราะต้องใช้เวลาในการโหลดข้อมูลมากขึ้น

วิธีการทำ SEO รูปภาพ

1. ภาพที่ทำขึ้นมาใหม่ดีกว่าภาพที่ขายอยู่ใน Stock Image หากต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ภาพที่ใช้ควรเป็นภาพของหน้าเว็บโดยตรง เพราะจะส่งผลต่อความไว้เนื้อเชื่อใจที่ดีมากขึ้น โดยเฉพาะภาพสินค้าที่จำหน่ายบนหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ

2. การตั้งชื่อรูปภาพต้องสื่อความหมายที่ถูกต้อง เนื่องจาก Google ไม่สนใจสีสัน ชื่อไฟล์ หรือ Code ต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่ Google ใช้ค้นหาภาพ จึงต้องใส่ keyword ในชื่อรูปภาพด้วย เพื่อบอกให้ google รู้ว่าภาพนี้คือภาพอะไร และทำให้การแสดงผลการค้นหาดีขึ้น หลักการตั้งชื่อรูปที่ดีคือการตั้งชื่อภาพเป็นภาษาอังกฤษที่สื่อความหมายของภาพโดยตรง รวมถึงชื่อสินค้า แนะนำว่าไม่ควรตั้งชื่อภาพเป็นภาษาไทย เพราะ Google อาจจะอ่านไม่ได้

3. การเลือกใช้ไฟล์ภาพที่มีขนาดพอเหมาะ โดยเฉพาะภาพที่ส่งผลให้หน้าเว็บมีลักษณะเป็น mobile friendly ที่โหลดได้ไวเมื่อแสดงผลบนมือถือ โดยขนาดของไฟล์ภาพไม่ควรเกิน 200 kb และขนาดความกว้าง ความยาวของภาพควรเหมาะสม สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรใหญ่เกินไป

4. การตั้งรูปเพื่อเพิ่มโอกาสแชร์ไปยัง Social media เพราะ Social media แต่ละ Platform มีลักษณะการแสดงรูปภาพที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องเลือกอย่างเหมาะสม

5. การส่ง XML image sitemaps Sitemap คือไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดระบบของเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์ เพื่อบอก Google หรือ Search Engine อื่น ๆ ให้สามารถรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บไซต์ของเราได้ง่ายมากขึ้น

เพราะการใช้รูปภาพไม่ใช่เพียงการสร้างความน่าสนใจให้กับหน้าเว็บไซต์ แต่ยังส่งผลต่ออันดับการค้นหาใน Search engine อีกด้วย