วิธีทำ SEO ที่ควรเลี่ยง

วิธีทำ SEO ที่ควรเลี่ยง

ในโลกของ SEO มีเทคนิคบางอย่างที่อาจส่งผลเสียต่ออันดับเว็บไซต์ของคุณแทนที่จะช่วยอันดับได้ สิ่งเหล่านี้มักเรียกว่าเทคนิค “หมวกดำ” หรือ “สแปม” และควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ วิธีการทำ SEO ที่สำคัญที่คุณควรหลีกเลี่ยง

1.การใช้คำหลักในทางที่ผิด

การใช้คำหลักในทางที่ผิด: การอัดคำหลักในเนื้อหาของคุณอย่างไม่เป็นธรรมชาติทำให้ผู้อ่านดูเทอะทะและไม่เป็นที่พอใจ เครื่องมือค้นหายังสามารถลงโทษคุณได้ในเรื่องนี้

รูปแบบการกำหนดเป้าหมายจากคำหลัก: อย่าสร้างหน้าเว็บหลายหน้าโดยกำหนดเป้าหมายคำหลักเดียวกันในเวอร์ชันที่แตกต่างกันเล็กน้อย มุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงในหัวข้อที่กว้างขึ้น

คำหลักที่ทำให้เข้าใจผิด: อย่าใช้คำหลักที่ไม่สะท้อนถึงธีมของเนื้อหาของคุณอย่างถูกต้อง สิ่งนี้หลอกลวงผู้ใช้และทำให้ความน่าเชื่อถือของคุณลดลง

2.ปัญหาเนื้อหา

เนื้อหาน้อย: หน้าเพจที่มีเนื้อหามีคุณค่าน้อยที่สุดไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา มุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาเชิงลึกที่ให้ข้อมูลที่ผู้ใช้จะมีส่วนร่วม

การหมุนเวียนเนื้อหา: การเขียนเนื้อหาที่มีอยู่ใหม่โดยอัตโนมัตินั้นมีคุณภาพต่ำและเครื่องมือค้นหาตรวจพบได้ง่าย สร้างเนื้อหาต้นฉบับที่มีคุณค่าไม่ซ้ำใคร

ข้อความหรือลิงก์ที่ซ่อน: การซ่อนข้อความหรือลิงก์จากผู้ใช้โดยที่เครื่องมือค้นหามองเห็นข้อความหรือลิงก์นั้นเป็นกลวิธีบิดเบือนที่อาจทำให้คุณถูกลงโทษ

3.การจัดการลิงก์

การซื้อลิงก์: การซื้อลิงก์ย้อนกลับขัดต่อหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา และอาจส่งผลเสียต่ออันดับของคุณอย่างรุนแรง สร้างลิงก์ย้อนกลับแบบออร์แกนิกผ่านเนื้อหาและการเข้าถึงที่มีคุณภาพ

รูปแบบลิงก์: การเข้าร่วมในการแลกเปลี่ยนลิงก์หรือรูปแบบการสร้างลิงก์ปลอมอื่นๆ อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกตั้งค่าสถานะได้ มุ่งเน้นที่การรับลิงก์ย้อนกลับตามธรรมชาติจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง

ความคิดเห็นที่เป็นสแปม: การแสดงความคิดเห็นที่ไม่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์อื่นด้วยลิงก์ย้อนกลับไปยังเว็บไซต์ของคุณเองนั้นไม่ได้ผลและอาจถูกมองว่าเป็นสแปม มีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างจริงใจและให้คุณค่าในความคิดเห็นของคุณ

4.แนวทางปฏิบัติอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง

การปิดบัง: การแสดงเนื้อหาที่แตกต่างกันต่อเครื่องมือค้นหาและผู้ใช้ถือเป็นการหลอกลวงและอาจทำให้คุณถูกลงโทษได้

SEO เชิงลบ: การพยายามทำลายอันดับของคู่แข่งด้วยกลยุทธ์ที่ผิดจรรยาบรรณนั้นเป็นอันตรายและขัดต่อหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา

การเพิกเฉยต่อ SEO บนมือถือ: เนื่องจากการค้นหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์มือถือ การละเลยการเพิ่มประสิทธิภาพบนมือถือจะส่งผลเสียต่อการมองเห็นของคุณอย่างมาก

โปรดจำไว้ว่าแนวทางปฏิบัติ SEO ที่ดีที่สุดมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง การให้คุณค่าแก่ผู้ใช้ และสร้างความไว้วางใจและอำนาจอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการหลีกเลี่ยงเทคนิคที่เป็นอันตรายเหล่านี้และมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ผู้ใช้ที่แท้จริง คุณจะกำหนดเว็บไซต์ของคุณบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ SEO ในระยะยาว

 

กฎระเบียบพื้นฐานทำ SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก Google

กฎระเบียบพื้นฐานทำ SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก Google

การทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิค SEO ทั้งในเพจและนอกเพจ กฎ SEO พื้นฐานเพื่อช่วยปรับปรุงการแสดงผลเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา

1.สร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ นี่เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO เนื่องจาก Google ต้องการมอบผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องและให้ข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แก่ผู้ใช้ เนื้อหาของคุณควรเขียนได้ดี มีข้อมูล และมีส่วนร่วม

2.เพิ่มประสิทธิภาพแท็กชื่อและคำอธิบายเมตาของคุณ แท็กชื่อและคำอธิบายเมตาของคุณเป็นเพียงตัวอย่างข้อความที่ปรากฏในผลการค้นหา ดังนั้นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกต้องและให้ข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมคำหลักเป้าหมายของคุณในแท็กชื่อและคำอธิบายเมตา แต่ต้องแน่ใจว่าคำเหล่านั้นสามารถอ่านได้และฟังดูเป็นธรรมชาติด้วย

3.ใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งเนื้อหาของคุณ เมื่อคุณเขียนเนื้อหา อย่าลืมใส่คำหลักเป้าหมายของคุณตลอดทั้งข้อความ รวมถึงในชื่อเรื่อง ส่วนหัว และข้อความเนื้อหา อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยงการใช้คำหลักในทางที่ผิด ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติในการใช้คำหลักมากเกินไปในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมชาติ

4.สร้างลิงก์ย้อนกลับไปยังเว็บไซต์ของคุณ ลิงก์ย้อนกลับคือลิงก์จากเว็บไซต์อื่นมายังของคุณเอง Google มองว่าลิงก์ย้อนกลับเป็นการโหวตความมั่นใจในเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นยิ่งคุณมีลิงก์ย้อนกลับมากเท่าใด เว็บไซต์ของคุณก็จะอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหา ในการสร้างลิงก์ย้อนกลับ ให้สร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่เว็บไซต์อื่นๆ ต้องการลิงก์ไป และติดต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ และขอลิงก์

5.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับมือถือ ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ดังนั้นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่จึงเป็นสิ่งสำคัญ Google ยังเพิ่มอันดับเว็บไซต์ที่เหมาะกับมือถืออีกด้วย

การปฏิบัติตามกฎ SEO พื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหาของ Google และเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ

1.ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณ Google ต้องการมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและราบรื่นแก่ผู้ใช้ ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ที่โหลดได้อย่างรวดเร็ว

2.ใช้มาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้าง มาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นวิธีหนึ่งในการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาของคุณแก่ Google วิธีนี้ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้นและแสดงเนื้อหาดังกล่าวได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในผลการค้นหา

3.ทำให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานง่าย Google ต้องการทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่าย ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ที่มีการจัดระเบียบอย่างดีและใช้งานง่าย

4.อัปเดตเว็บไซต์ของคุณด้วยเนื้อหาสดใหม่ Google ต้องการให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ที่อัปเดตเนื้อหาใหม่เป็นประจำ

SEO เป็นสาขาที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่การปฏิบัติตามกฎพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้คุณติดหน้าแรกของ Google และได้รับการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

ข้อผิดพลาดที่เว็บไซต์ไม่ติดอันดับ

ทำ SEO มาเป็นปี แต่ทำไมเว็บไซต์ยังไม่ขึ้นบน Google สักที?

การทำเว็บไซต์ให้ขึ้นไปอยู่บนหน้าแรกของ search engine นั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม แต่ก็มีหลายคนที่พยายามทำ SEO ถูกต้องตามหลักแล้วแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าเว็บไซต์จะขึ้นไปอยู่บนหน้าแรกสักที วันนี้เรามีข้อผิดพลาดที่หลายคนลืมตรวจสอบบนเว็บไซต์ของตัวเองมาให้คุณไปตรวจสอบดู

ข้อผิดพลาดที่ทำให้เว็บไซต์ไม่ติดอันดับ

Traffic น้อยหรือไม่มีเลย

บางคนทำเนื้อหาน่าอ่านและมีการอัปเดตบ่อย ๆ แต่น่าเสียดายตรงที่ว่าไม่เคยได้มีใครเข้าไปอ่านเลย โดย search engine อย่าง Google นั้นใช้ page session เป็นหนึ่งในการให้คะแนน SEO แก่เว็บไซต์แต่ละที่ หากเว็บไซต์ของคุณไม่มี traffic หรือคนเข้ามาดูเลย ก็จะทำให้โอกาสติดหน้าแรกยากสักหน่อย

ไม่มี Backlink เลย

Backlink เป็นปัจจัยที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในการทำ SEO หลายเว็บไซต์ที่ไม่ได้ทำเนื้อหาน่าอ่านเท่าไหร่ แต่มี backlink เยอะและไปอยู่บนเว็บไซต์ที่มีคุณภาพก็มีโอกาสติด SEO ได้เหมือนกันนะ ฉะนั้นลองตรวจสอบดูว่าเว็บไซต์ของคุณเคยทำ backlink มาบ้างแล้วหรือยัง

ใช้ใช้คีย์เวิร์ดสั้นที่ยากเกินไป

คีย์เวิร์ดสั้น ๆ หรือ short tail keywords นั้นเป็น mass keyword ซึ่งเป็นประเภทที่หลายเว็บไซต์ใช้ทำ SEO จึงทำให้มีการแข่งขันสูงมาก เว็บไซต์ที่เพิ่งหันมาทำ SEO อาจไต่อันดับขึ้นไปยาก แล้วยังถูกต้อนพื้นที่บนหน้า search engine ด้วยเว็บไซต์ที่ใช้วิธีการโฆษณาเพื่อให้ไปอยู่บนหน้าค้นหาด้วยเหมือนกัน

เนื้อหาน้อยเกินไป

เนื้อหาในแต่ละหน้าบนเว็บไซต์นั้นควรเกิน 500 คำขึ้นไป แต่หากเนื้อหาในแต่ละหน้าของคุณมีหน้าละ 300 – 400 คำ ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การทำ SEO ไม่ได้ผล ฉะนั้นลองตรวจสอบดูว่าในแต่ละหน้าบนเว็บไซต์ของคุณนั้นมีจำนวนคำมากน้อยแค่ไหน

Domain name ติด Blacklist

สำหรับบางคนที่ซื้อ domain name ที่ผ่านการใช้งานมาก่อนหรือเคยทำผิดกฎของ search engine มาก่อนนั้น มีโอกาสที่จะติด blacklist ซึ่งบางทีคุณอาจไม่รู้ตัว ฉะนั้นต่อให้ทำ SEO ดีแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยให้เว็บไซต์ไต่อันดับขึ้นมาได้เลย

โครงสร้างเว็บไซต์มีปัญหา

คุณอาจไม่รู้ว่าโครงสร้างเว็บไซต์นั้นมีส่วนในการขึ้นอันดับ SEO มากพอสมควรเลยล่ะ เพราะการเชื่อมโยงในแต่ละหน้าของเว็บไซต์ที่ไม่มีการจัดระเบียบให้ bot ของ search engine สามารถค้นหาง่ายนั้น เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เว็บไซต์ของคุณถูกเขี่ยให้ไปอยู่หน้าท้าย ๆ ได้

เอาล่ะ! ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องกลับไปตรวจสอบเว็บไซต์ของตัวเอง หากเว็บไซต์ของคุณยังไม่ไต่ขึ้นอันดับของ search engine สักที นั่นอาจเป็นเพราะข้อผิดพลาดต่าง ๆ ตามที่อธิบายข้างต้น ซึ่งคุณอาจลืมทำหรือไม่ได้สังเกตมาก่อนก็เป็นได้

ทำ SEO มาเป็นปี แต่ทำไมเว็บไซต์ยังไม่ขึ้นบน Google สักที

การทำ SEO จำเป็นไหมสำหรับธุรกิจออนไลน์

การทำ SEO จำเป็นไหมสำหรับธุรกิจออนไลน์

การทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์ได้รับการประชาสัมพันธ์แบบไม่ต้องเสียเงินให้แก่ Search Engine อย่าง Google Yahoo ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมใช้ในการค้นหาสินค้าและบริการทั่วโลกจึงเป็นวิธีที่ได้ผลดีต่อธุรกิจ ที่ผู้เชี่ยวชาญในด้านการตลาดแนะนำให้ทำ

การพัฒนาเว็บไซต์ SEO

ทุกเว็บไซต์ควรทำ SEO เพื่อให้คุณภาพตรงตามข้อกำหนดของ Search Engine ในส่วนต่าง ๆ ได้แก่

– การเขียนบทความ ต้องมี Keywords ที่ตรงกับการสืบค้นของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย มีสาระประโยชน์และมีความยาวเหมาะสม

– การอัปเดตเนื้อหาเว็บไซต์เป็นประจำสม่ำเสมอ โดยมีเนื้อหาที่ทันสมัยและมีข้อมูลที่ถูกต้อง

– บทความไม่มีการใช้ Keywords ซ้ำบ่อยจนอ่านไม่รู้เรื่อง หรือเรียกว่า Keyword Stuffing

– มีการทำลิงก์เชื่อมโยงเว็บไซต์จากภายนอก หรือ Backlink เช่น การไปตอบคำถามในห้องแชทต่าง ๆ แล้วมีการแปะลิงก์ไว้เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์หลักทางธุรกิจของคุณ

การพัฒนาเว็บไซต์ด้านต่าง ๆ ที่กล่าวมา จะทำให้ระบบ Algorithm ของ Search Engine สามารถวิเคราะห์และประมวลผลได้ง่าย ซึ่งทำให้ผลการจัดอันดับในการสืบค้นนั้นดีขึ้น มีผลดีต่อยอดขายสินค้าและบริการในระยะยาวด้วย

ประโยชน์ที่จะได้จาก SEO

เมื่อทำเว็บไซต์ SEO จะได้ประโยชน์ ดังนี้

1. จะมีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าและบริการจากเว็บไซต์มากขึ้น เพราะได้รับความน่าเชื่อถือในความทันสมัยและภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท

2. ลูกค้าจะนิยมเข้ามาอ่านบทความในเว็บไซต์ และนำไปบอกต่อ เป็นการเพิ่มโอกาสในการขายให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่มีการปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ดูสวยงามและใช้งานง่าย จะทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีความประทับใจและกลับมาใช้บริการซ้ำอีก

3. การที่ลูกค้าได้ประโยชน์จากการ เข้ามาชมหรืออ่านข้อมูลในเว็บไซต์ จะทำให้เพิ่ม Traffic จากการวิเคราะห์ด้วย Algorithm แล้วทำให้อันดับยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงช่วยเป็นการประหยัดค่าประชาสัมพันธ์หรือลดการจ่ายค่าจ้างทำโฆษณาวิธีอื่น ๆ ได้

4. การที่ทำ SEO จนอันดับสืบค้นดีขึ้น จะเป็นการเพิ่มความโอกาสในการได้รับออเดอร์สั่งซื้อสินค้าและบริการได้จากทั่วประเทศและจากต่างประเทศมากขึ้น

5. เนื่องจากระบบอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงระหว่างกันตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะมีโอกาสเห็นเว็บไซต์ SEO ในอันดับบน ๆ สั่งซื้อได้อย่างสะดวก แม้เจ้าของธุรกิจจะไม่ได้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ

จากข้อดีที่กล่าวมา จึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางการตลาด จึงแนะนำว่าการทำ SEO เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ในยุคปัจจุบัน โดยการปรับปรุงทั้งเนื้อหา โครงสร้างและลิงก์ที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือจ้างบริษัทที่มีประสบการณ์ก็จะทำให้ใช้เวลาทำ SEO ที่น้อยลงได้

การทำ SEO จำเป็น สำหรับธุรกิจออนไลน์

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร เรียกลูกค้า

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร เรียกลูกค้าดี

การทำเว็บไซต์ SEO ที่มีคุณภาพเพื่อเรียกกลุ่มคนเป้าหมายให้เข้ามาชมข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าและบริการจากเว็บไซต์ของคุณได้นั้น ในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องศึกษาการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในแต่ละวันที่มีมหาศาล แต่จะทำอย่างไร จึงจะได้เว็บไซต์ SEO ที่เรียกลูกค้าได้ดี เรามาดูเทคนิคกัน

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร เรียกลูกค้าดี

เว็บไซต์ SEO คือ อะไร

การปรับเว็บไซต์ธรรมดาของคุณให้เป็นเว็บไซต์ SEO คือ การเพิ่มเติมคีย์เวิร์ด SEO ในส่วนต่าง ๆ มีการปรับโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ มีการเพิ่มลิ้งค์จากภายนอกที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการขายของสินค้าคุณได้จริง จึงจะทำให้เว็บไซต์ SEO ถูกสืบค้นได้เป็นอันดับต้น ๆ ในหน้าแรกของ search engine ที่แน่นอนว่าจะมีผู้คลิกเข้ามาอ่านเนื้อหา และเลือกซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์คุณมากขึ้นด้วย

จะทำอย่างไร ให้เว็บไซต์ SEO เรียกลูกค้าดี

การจะเรียกลูกค้าหรือทำให้จูงใจผู้อ่านให้เข้ามาชมข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณ จำเป็นต้องมีการปรับส่วนประกอบในเว็บไซต์ ดังนี้

1. มี keyword SEO ในส่วนหัวเรื่องที่คุณนำเสนอ เช่น คีย์เวิร์ดว่า เกมส์ ก็ต้องมีคำว่าเกมส์ในหัวข้อ เช่น เกมส์อีสปอร์ตในปี 2019 มีอะไรใหม่ เป็นต้น

2. มีการใส่คีย์เวิร์ด SEO ทั้งในส่วนย่อหน้าแรก หรือที่เรียกว่า description ส่วนเนื้อหาหลัก และส่วนปิดท้าย หรือบทสรุปของเรื่อง ควรกระจายทั่วไป และไม่ควรซ้ำมากจนระบบ algorithm ของ search engine ตีความหมายว่าเป็น spam หรือบทความขยะที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกลดอันดับลงไปด้วย

3. ส่วนนี้สำคัญมากที่สุด คือ เนื้อหาหลักที่ต้องตรงกับโจทย์ หรือหัวข้อที่คุณนำเสนอไปตอนต้น ไม่ควรหลุดประเด็นจากโครงเรื่องที่วางไว้ หรือมีส่วนของโฆษณาส่งเสริมการขายที่มากเกินไป จนทำให้ผู้อ่านรู้สึกเสียเวลา บทความขาดความน่าเชื่อถือ และอาจทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเลิกเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณอีกก็เป็นได้

4. การตั้งชื่อของ URL address ก็เป็นส่วนที่ต้องให้ความใส่ใจ เนื่องจากหลายท่านตั้งชื่อโดยใช้คีย์เวิร์ดที่เป็นภาษาไทยในส่วนนี้ การผิดเพี้ยนของสระ ตัวอักษร วรรณยุกต์ แม้เพียงตัวเดียว ก็ทำให้หน้าของบทความนั้น ๆ ไม่สามารถถูกเปิดได้ ทำให้การลงทุนด้านงานเขียนสูญเปล่า คุณจึงควรใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่มีความหมายตรงกับ keyword ที่ชัดเจนที่สุดในการตั้งชื่อ url address เช่น คีย์เวิร์ดว่าดอกไม้ ก็ควรใช้ว่า flower รองเท้า ก็ควรใช้ว่า shoe เป็นต้น

ทำเว็บไซต์ SEO เรียกลูกค้าดี

การทำเว็บไซต์ SEO ให้เรียกลูกค้าเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องมีความสม่ำเสมอในการผลิต content และมีทีมงานที่ดูแลโครงสร้างของเว็บไซต์ให้มีคุณสมบัติตรงตามที่ search engine กำหนดเสมอ