วิธีทำ SEO ที่ควรเลี่ยง

วิธีทำ SEO ที่ควรเลี่ยง

ในโลกของ SEO มีเทคนิคบางอย่างที่อาจส่งผลเสียต่ออันดับเว็บไซต์ของคุณแทนที่จะช่วยอันดับได้ สิ่งเหล่านี้มักเรียกว่าเทคนิค “หมวกดำ” หรือ “สแปม” และควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ วิธีการทำ SEO ที่สำคัญที่คุณควรหลีกเลี่ยง

1.การใช้คำหลักในทางที่ผิด

การใช้คำหลักในทางที่ผิด: การอัดคำหลักในเนื้อหาของคุณอย่างไม่เป็นธรรมชาติทำให้ผู้อ่านดูเทอะทะและไม่เป็นที่พอใจ เครื่องมือค้นหายังสามารถลงโทษคุณได้ในเรื่องนี้

รูปแบบการกำหนดเป้าหมายจากคำหลัก: อย่าสร้างหน้าเว็บหลายหน้าโดยกำหนดเป้าหมายคำหลักเดียวกันในเวอร์ชันที่แตกต่างกันเล็กน้อย มุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงในหัวข้อที่กว้างขึ้น

คำหลักที่ทำให้เข้าใจผิด: อย่าใช้คำหลักที่ไม่สะท้อนถึงธีมของเนื้อหาของคุณอย่างถูกต้อง สิ่งนี้หลอกลวงผู้ใช้และทำให้ความน่าเชื่อถือของคุณลดลง

2.ปัญหาเนื้อหา

เนื้อหาน้อย: หน้าเพจที่มีเนื้อหามีคุณค่าน้อยที่สุดไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา มุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาเชิงลึกที่ให้ข้อมูลที่ผู้ใช้จะมีส่วนร่วม

การหมุนเวียนเนื้อหา: การเขียนเนื้อหาที่มีอยู่ใหม่โดยอัตโนมัตินั้นมีคุณภาพต่ำและเครื่องมือค้นหาตรวจพบได้ง่าย สร้างเนื้อหาต้นฉบับที่มีคุณค่าไม่ซ้ำใคร

ข้อความหรือลิงก์ที่ซ่อน: การซ่อนข้อความหรือลิงก์จากผู้ใช้โดยที่เครื่องมือค้นหามองเห็นข้อความหรือลิงก์นั้นเป็นกลวิธีบิดเบือนที่อาจทำให้คุณถูกลงโทษ

3.การจัดการลิงก์

การซื้อลิงก์: การซื้อลิงก์ย้อนกลับขัดต่อหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา และอาจส่งผลเสียต่ออันดับของคุณอย่างรุนแรง สร้างลิงก์ย้อนกลับแบบออร์แกนิกผ่านเนื้อหาและการเข้าถึงที่มีคุณภาพ

รูปแบบลิงก์: การเข้าร่วมในการแลกเปลี่ยนลิงก์หรือรูปแบบการสร้างลิงก์ปลอมอื่นๆ อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกตั้งค่าสถานะได้ มุ่งเน้นที่การรับลิงก์ย้อนกลับตามธรรมชาติจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง

ความคิดเห็นที่เป็นสแปม: การแสดงความคิดเห็นที่ไม่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์อื่นด้วยลิงก์ย้อนกลับไปยังเว็บไซต์ของคุณเองนั้นไม่ได้ผลและอาจถูกมองว่าเป็นสแปม มีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างจริงใจและให้คุณค่าในความคิดเห็นของคุณ

4.แนวทางปฏิบัติอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง

การปิดบัง: การแสดงเนื้อหาที่แตกต่างกันต่อเครื่องมือค้นหาและผู้ใช้ถือเป็นการหลอกลวงและอาจทำให้คุณถูกลงโทษได้

SEO เชิงลบ: การพยายามทำลายอันดับของคู่แข่งด้วยกลยุทธ์ที่ผิดจรรยาบรรณนั้นเป็นอันตรายและขัดต่อหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา

การเพิกเฉยต่อ SEO บนมือถือ: เนื่องจากการค้นหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์มือถือ การละเลยการเพิ่มประสิทธิภาพบนมือถือจะส่งผลเสียต่อการมองเห็นของคุณอย่างมาก

โปรดจำไว้ว่าแนวทางปฏิบัติ SEO ที่ดีที่สุดมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง การให้คุณค่าแก่ผู้ใช้ และสร้างความไว้วางใจและอำนาจอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการหลีกเลี่ยงเทคนิคที่เป็นอันตรายเหล่านี้และมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ผู้ใช้ที่แท้จริง คุณจะกำหนดเว็บไซต์ของคุณบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ SEO ในระยะยาว

 

กฎระเบียบพื้นฐานทำ SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก Google

กฎระเบียบพื้นฐานทำ SEO ยังไงให้ติดหน้าแรก Google

การทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิค SEO ทั้งในเพจและนอกเพจ กฎ SEO พื้นฐานเพื่อช่วยปรับปรุงการแสดงผลเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา

1.สร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ นี่เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO เนื่องจาก Google ต้องการมอบผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องและให้ข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แก่ผู้ใช้ เนื้อหาของคุณควรเขียนได้ดี มีข้อมูล และมีส่วนร่วม

2.เพิ่มประสิทธิภาพแท็กชื่อและคำอธิบายเมตาของคุณ แท็กชื่อและคำอธิบายเมตาของคุณเป็นเพียงตัวอย่างข้อความที่ปรากฏในผลการค้นหา ดังนั้นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกต้องและให้ข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมคำหลักเป้าหมายของคุณในแท็กชื่อและคำอธิบายเมตา แต่ต้องแน่ใจว่าคำเหล่านั้นสามารถอ่านได้และฟังดูเป็นธรรมชาติด้วย

3.ใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งเนื้อหาของคุณ เมื่อคุณเขียนเนื้อหา อย่าลืมใส่คำหลักเป้าหมายของคุณตลอดทั้งข้อความ รวมถึงในชื่อเรื่อง ส่วนหัว และข้อความเนื้อหา อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยงการใช้คำหลักในทางที่ผิด ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติในการใช้คำหลักมากเกินไปในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมชาติ

4.สร้างลิงก์ย้อนกลับไปยังเว็บไซต์ของคุณ ลิงก์ย้อนกลับคือลิงก์จากเว็บไซต์อื่นมายังของคุณเอง Google มองว่าลิงก์ย้อนกลับเป็นการโหวตความมั่นใจในเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นยิ่งคุณมีลิงก์ย้อนกลับมากเท่าใด เว็บไซต์ของคุณก็จะอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหา ในการสร้างลิงก์ย้อนกลับ ให้สร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่เว็บไซต์อื่นๆ ต้องการลิงก์ไป และติดต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ และขอลิงก์

5.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับมือถือ ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ดังนั้นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่จึงเป็นสิ่งสำคัญ Google ยังเพิ่มอันดับเว็บไซต์ที่เหมาะกับมือถืออีกด้วย

การปฏิบัติตามกฎ SEO พื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหาของ Google และเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ

1.ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณ Google ต้องการมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและราบรื่นแก่ผู้ใช้ ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ที่โหลดได้อย่างรวดเร็ว

2.ใช้มาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้าง มาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นวิธีหนึ่งในการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาของคุณแก่ Google วิธีนี้ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้นและแสดงเนื้อหาดังกล่าวได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในผลการค้นหา

3.ทำให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานง่าย Google ต้องการทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่าย ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ที่มีการจัดระเบียบอย่างดีและใช้งานง่าย

4.อัปเดตเว็บไซต์ของคุณด้วยเนื้อหาสดใหม่ Google ต้องการให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มอันดับให้กับเว็บไซต์ที่อัปเดตเนื้อหาใหม่เป็นประจำ

SEO เป็นสาขาที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่การปฏิบัติตามกฎพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้คุณติดหน้าแรกของ Google และได้รับการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

7 คุณประโยชน์ของ SEO ที่คนทำธุรกิจต้องรู้

7 คุณประโยชน์ของ SEO ที่คนทำธุรกิจต้องรู้

SEO คือ วิธีการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับหน้าค้นหาของ Search Engine อย่าง Google ภายใต้กฎ ข้อบังคับอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างโอกาสให้เป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก ยิ่งเว็บไซต์อยู่ในหน้าค้นหาหน้าแรก ๆ มากเท่าใด ยิ่งเป็นที่รู้จักของคนมากขึ้นเท่านั้น เพราะมากกว่า 90% คนที่ใช้ Search Engine ในการค้นหาจะคลิกลิงก์ 1 ใน 5 อันดับเสมอ นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ ที่เจ้าของเว็บไซต์ควรรู้ จะมีประโยชน์ด้านใดบ้างไปดูกันเลย

ลดค่าใช้จ่ายในการยิงแอด

การทำ SEO หากทำด้วยความมุ่งมั่นและจริงใจแล้วบอกได้เลยว่าดีกว่าการยิงแอดอย่างแน่นอน แถมบางครั้งอาจไม่ต้องเสียเงินในการทำการตลาดระยะยาวอีกด้วย เพราะการยิงโฆษณาก็เปรียบเสมือนกับถั่วงอก เพียงโรยเมล็ด เติมน้ำ ไม่กี่วันก็สามารถเก็บกินได้ทันที ในขณะที่การทำ SEO เหมือนการปลูกไม้ผล แม้ใช้ระยะเวลานาน แต่สามารถเก็บกินได้ตลอด โดยไม่ต้องปลูกใหม่

สร้างมาตรฐานให้กับเว็บไซต์

ด้วยกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ที่ Search Engine กำหนดมาให้นักพัฒนาเว็บไซต์ปฏิบัติตาม เพื่อสร้างเว็บไซต์ให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด เมื่อ bot ที่ใช้ในการค้นหาและจัดอันดับ เข้ามาตรวจสอบ ก็จะทำให้เว็บไซต์ได้รับคะแนนในการจัดอันดับที่ดีขึ้นและมี feed back ให้ทำการแก้ไขเพื่อที่จะได้ปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น

ได้ลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมาย

การทำ SEO จะช่วยให้คุณได้ลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพราะมีการกำหนด keyword ของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการตั้งแต่แรกนั่นเอง

แบรนด์เป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้น

เมื่อ keyword ของกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการค้นหาและคำที่เกี่ยวข้องทำงาน ก็จะช่วยให้แบรนด์หรือสินค้าผ่านสายตาของคนจำนวนมาก ยิ่งเห็นบ่อย ๆ ก็จะทำให้เป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้น

โปรโมทสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง

หากเว็บไซต์ของคุณติดอันดับค้นหาก็จะช่วยเป็นการโปรโมทสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดทั้ง 365 วันแบบไม่มีวันหยุด จึงทำให้คนรู้จักและเป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้น

สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

เมื่อเว็บไซต์ของคุณติดอันดับของการค้นหาแล้ว ย่อมได้เปรียบคู่แข่งทางการค้า เพราะการที่สินค้าของคุณผ่านสายตาของคนจำนวนมาก ย่อมหมายถึงโอกาสที่จะทำให้มีลูกค้ามากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการขายที่มากขึ้นด้วย

ได้รับความน่าเชื่อถือ

หากเว็บไซต์ได้รับการกล่าวถึงนางที่ดีเป็นวงกว้าง เป็นไปได้ว่าเว็บไซต์ของคุณกำลังได้รับความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการอย่างมากในการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ เพราะทำให้คนเชื่อใจในเว็บไซต์ของคุณว่าจะไม่โกงนั่นเอง

แม้จะมีข้อดีมากมายของการทำ SEO แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย นั่นคือการปรับเปลี่ยนข้อกำหนด ในการค้นหาหรือการเปลี่ยนอัลกอริทึมของ Search Engine ทำให้เจ้าของเว็บไซต์ต้องการ Active ตนเองอยู่ตลอดเวลาและนำเสนอเนื้อหาที่มีแต่คุณภาพเท่านั้น ซึ่งหากใครที่ต้องการเห็นผลที่ยั่งยืน คงต้องบอกว่าต้องอดทนและพยายามให้ถึงที่สุด เพราะผลลัพธ์ดังกล่าวมันหอมหวานแล้วเย้ายวนใจยิ่งนัก

แนะนำวิธีสร้างเงินบน Blockdit ขุมทองออนไลน์สำหรับนักเขียน ด้วยการใช้ SEO

แนะนำวิธีสร้างเงินบน Blockdit ขุมทองออนไลน์สำหรับนักเขียน ด้วยการใช้ SEO

ความรู้ด้านการเขียนไม่ใช่เรื่องไกลตัวและเป็นความรู้ที่สามารถนำมาสร้างรายได้เข้ากระเป๋าได้มากมาย ทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันนักเขียนอิสระทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพสามารถสร้างรายได้ผ่านทาง Social Media หรือ Application ที่เปิดโอกาสให้นักเขียนได้หาช่องทางสร้างรายได้ของตัวเองได้ง่าย ๆ

Blockdit เป็นแอปพลิเคชันใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อ่านได้อัปเดตในสิ่งที่ตัวเองให้ความสนใจ แต่สำหรับนักเขียนแล้ว ไม่เพียงแต่ได้แชร์เรื่องราวที่ตัวเองอยากแบ่งปันให้กับนักอ่านที่สนใจเท่านั้น แต่เมื่อมีจำนวนผู้ติดตามครบ 1,000 คน นักเขียนก็สามารถสร้างรายได้กับ Blockdit ได้ โดยประเภทบทความที่สามารถสร้างจำนวนผู้ติดตามได้เยอะมีหลายประเภท เช่น บทความแชร์ไอเดียสร้างรายได้, บทความเกี่ยวกับงานอดิเรก, บทความสร้างแรงบันดาลใจและนวนิยาย เป็นต้น

เทคนิคการเขียนบทความให้มีผู้ติดตามเยอะ สามารถทำได้ดังนี้

เขียนเรื่องราวที่มีความเฉพาะเจาะจง เนื่องจาก Blockdit เป็นแอปพลิเคชันที่มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อ่านโดยเฉพาะ การกำหนดเนื้อเรื่องที่จะเขียนไปในทิศทางเดียวกันช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและอยากกดติดตามมากกว่า

โพสต์บทความอย่างน้อยวันละ 1 บท การโพสต์บทความอย่างสม่ำเสมอในช่วงเวลาเดียวกัน โดยต้องคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้ติดตามเป็นสำคัญ เช่น โพสต์นิยายในช่วงเวลา 20.00 – 22.00 น.หรือ โพสต์เนื้อหาข่าวในช่วง 06.00 – 09.00 น. เป็นต้น

นำพื้นฐาน SEO มาใช้ โดยหา Keyword ที่คิดว่ากลุ่มเป้าหมายค้นหาบ่อยมาใช้ และสามารถนำมาใช้กับทุกบทความได้ เพื่อดึงดูดให้บทความติดอันดับบน Search Engine ซึ่งจะช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายจากภายนอก

200 Word Up ความยาวของบทความที่ดีและสามารถสร้างรายได้ใน Blockdit ต้องเป็นบทความที่มีความยาว 200 คำขึ้นไป เพราะเป็นจำนวนคำที่ผู้อ่านไม่ต้องใช้เวลามากเกินไป

ใช้รูปภาพที่น่าสนใจ การนำภาพสวย ๆ มาใช้แทรกในบทความจะช่วยดึงดูดสายตาของผู้อ่านให้เกิดความสนใจได้ดีกว่า และยังทำให้บทความดูไม่น่าเบื่อด้วย

แม้ว่า Blockdit จะเป็นแอปพลิเคชันใหม่ที่เป็นหนึ่งในช่องทางสำหรับสร้างรายได้ด้วยการเขียนบทความได้ง่าย ๆ แต่บทความที่นำมาใช้ต้องไม่ขัดกับกฎพื้นฐานในการเขียนบทความ เช่น

เนื้อหาภายในบทความต้องเป็นเนื้อหาที่เขียนขึ้นมาใหม่ หรือใช้ข้อมูลอ้างอิงจากแหล่งอื่นไม่เกิน 10% ของเนื้อหาทั้งหมดในบทความ และหากมีการอ้างอิงเนื้อหามาจากแหล่งอื่น ควรให้เครดิตแหล่งที่มาเสมอ

รูปที่นำมาใช้ควรเป็นรูป No copyright หรือเป็นรูปที่ทำขึ้นมาเอง หรือสามารถนำภาพของผู้อื่นมาใช้ได้ เพียงแต่ต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของภาพก่อน

Blockdit สื่อออนไลน์แบบใหม่ที่สนับสนุนให้คนไทยรักการอ่านมากขึ้น และยังเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับนักเขียน และเป็นแหล่งฝึกฝีมือด้านการเขียนสำหรับนักเขียนมือใหม่

เทคนิคการเขียนบทความให้มีผู้ติดตามเยอะ

ขั้นตอนการเขียน SEO ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้

ขั้นตอนการทำ SEO ยากไหม มีอะไรบ้าง

หากได้ศึกษาจริง ๆ แล้วจะพบว่าการทำ SEO ไม่ยากอย่างที่คิดเลย คนส่วนใหญ่ที่คิดว่ายากเพราะยังไม่เข้าใจเสียมากกว่า เหมือนตอนเด็ก ๆ เห็นเครื่องหมาย + ก็คิดว่ายาก แต่พอได้เริ่มเรียนแล้วเข้าใจถึงรู้ว่ามันง่าย การทำ SEO ก็เช่นกัน ไม่เพียงแต่คนทั่วไปจะสามารถทำแล้ว ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจขายสินค้าหรือบริการก็ยิ่งจำเป็นต้องทำความเข้าใจเพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจเอง รับรองเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด

ขั้นตอนการเขียน SEO ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้

กำหนด Keyword เราต้องทราบก่อนว่าสินค้าหรือบริการที่เราต้องการจะนำเสนอคืออะไร แล้วเวลาลูกค้าหรือผู้อ่านจะค้นหาสิ่งนั้น ๆ เขาพิมพ์ว่าอะไรกัน โดยเราสามารถหา Keyword ที่ตรงกับสินค้าหรือบริการของเราได้จากการจัดอันดับบน Google

มีเนื้อหาที่น่าสนใจ หนังไม่สนุก ใครจะอยากดู การทำ SEO ไม่ใช่สักแต่จะขายของ ควรมี Content อื่น ๆ ที่น่าสนใจประกอบร่วมไปกับการนำเสนอสินค้าหรือบริการอย่างแยบยล ดึงดูดความสนใจให้ผู้อ่านได้ติดตามต่อไปเรื่อย ๆ

ควรมี Keyword กระจายทั่วบทความ โดยเฉพาะตรงส่วน Title และ Description จะขาดไม่ได้เลย เพราะส่วนนี้จะทำให้การค้นหาทำได้ง่ายขึ้น เนื้อเรื่องบทความเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงเป็นจิตวิทยาที่ทำให้ผู้อ่านได้ซึมซับกับคำนั้น ๆ ลงไปในจิตใต้สำนึกอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามผู้ทำ SEO ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมชาติด้วย เพราะการใส่ Keyword เยอะจนเกินไป ก็อ่านแล้วรู้สึกติดขัดได้เช่นกัน

จำนวนคำไม่ควรน้อยหรือมากไป ตรงนี้ไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่าการทำ SEO ต้องมีจำนวนคำเท่าไหร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการจะนำเสนอใคร ถ้าต้องการจะนำเสนอเด็กวัยรุ่นก็ไม่ควรมีจำนวนคำมากนัก 300 – 500 คำกำลังพอดี แต่ถ้าต้องการนำเสนอผู้ใหญ่ ก็จำเป็นต้องมีข้อมูลให้ครบถ้วนประมาณ 700 – 1,000 คำโดยประมาณ แต่ก็ต้องคำนึงถึงพื้นที่หน้าเว็บไซต์ด้วยว่าการออกแบบเอื้ออำนวยความยาวของเนื้อหามากแค่ไหน

รูปและวิดีโอก็มีความสำคัญ ลองนึกง่าย ๆ ว่ามีรูปกับข้อความยาว ๆ เราเลือกจะดูอันไหน แน่นอนว่าต้องเป็นรูปเพราะเข้าใจง่ายกว่ามาก บทความที่มีเนื้อหาไม่เยอะ แต่มีรูปและวิดีโอจะได้รับความสนใจมากกว่าบทความที่มีแต่เนื้อหายาว ๆ ไม่มีรูปหรือวิดีโอเสมอขั้นตอนการทำ SEO ยากไหม มีอะไรบ้าง

ถึงตรงนี้ก็แทบจะครอบคลุมขั้นตอนของการทำ SEO ทั้งหมดแล้ว เหลือแค่ไปเจาะลึกรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น โดยรวมแล้วจะเห็นว่าไม่มีอะไรยากเลย เพียงแต่ว่าบางครั้งการทำ SEO ก็ต้องอาศัยนักเขียนที่มีความเป็นมืออาชีพพอสมควรเพื่อให้เนื้อหาที่ต้องการจะนำเสนอนั้นน่าสนใจ หากใครคิดว่าเราไม่สามารถทำได้หรือไม่มีเวลามากพอ ยังมีบริษัทที่รับทำ SEO ให้บริการอยู่ หากเปรียบเทียบค่าดำเนินการเรื่อง SEO กับการโฆษณาในช่องทางอื่น ๆ แล้ว ก็นับว่าประหยัดมากกว่า โดยเฉพาะในระยะยาว

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับบทความ SEO เพื่อคนทำเว็บไซต์ออนไลน์

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับบทความ SEO เพื่อคนทำเว็บไซต์ออนไลน์

การทำ SEO ตามระบบ search engine optimization ที่ Google กำหนด มีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและส่งเสริมธุรกิจให้มียอดขายดีขึ้น ซึ่งสิ่งที่ผู้คนจะเห็นจากเว็บไซต์เป็นอย่างแรก ก็คือ บทความ SEO จากการสืบค้นในช่อง Search ของ Google ดังนั้น การทำบทความ SEO ที่มีคุณภาพ จึงสร้างความประทับใจเบื้องต้นแก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้

หลักการเขียนบทความ

การเขียนบทความใด ๆ นั้นจะต้องรู้วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เช่น บทความทั่วไปจะเป็นแนววิชาการ เพื่อให้ผู้อ่านได้ศึกษาข้อมูลหรือเป็นการเล่าข่าวหรือเล่าผลการวิจัย ถ้าเป็นแนวเพื่อการขายและรีวิวสินค้า ก็ต้องให้ความสำคัญกับภาษาและการบอกเล่าประสบการณ์ในการใช้สินค้าหนึ่ง ๆ

แต่สำหรับบทความ SEO นั้น จะต้องเลือกจาก keyword ที่ตรงกับการค้นหาใน Google เป็น ซึ่งมีเครื่องมือที่คนทำบทความ SEO เพื่อธุรกิจออนไลน์ควรรู้จัก คือ Google search Console ที่จะมีระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ในการรวบรวมสถิติการใช้งานของคนทั่วโลกว่า ใช้ keyword ใดในการค้นหาบ้าง

ตัวอย่างเช่น การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมือถือ ก็จะมีการใช้ keyword ที่นิยมอย่าง มือถือ iPhone 11 ดีไหม หรือ มือถือ Huawei รุ่นใหม่ ใช้ง่าย เป็นต้น

หากคุณพบว่าคำเหล่านี้มีเปอร์เซ็นต์การสืบค้นมากกว่าคำอื่น ๆ และอำนาจในการแข่งขันสูง เมื่อทำบทความแล้วย่อมจะได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ที่กำลังอยากเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือตามมา เช่นนี้ ก็แสดงว่าการสื่อสารผ่านบทความ SEO เรื่องนั้น ๆ ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นแล้ว

และถ้าคุณเป็นเว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ไอที เมื่อทำบทความ SEO ที่มีการคัดเลือก keyword ที่ดีอย่างต่อเนื่อง จนสามารถกระตุ้นให้มียอดขายสินค้าในเว็บไซต์คุณมากขึ้นได้ ก็จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ก้าวไกลขึ้นนั่นเอง

การทำเว็บไซต์ SEO จะต้องคำนึงทั้งในส่วนของโครงสร้างเว็บไซต์ที่สวยงามใช้งานง่าย ซึ่งบทความ SEO ที่นำเสนออยู่บนเว็บไซต์คือกุญแจสำคัญของธุรกิจออนไลน์ ที่ผู้ใช้งานจะมองเห็นจากหัวข้อแล้วคลิกเข้ามาอ่าน ดังนั้นการจัดหมวดหมู่ของบทความก็เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้

ตัวอย่างได้แก่ หากคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับเรื่องแม่และเด็ก ก็ควรจะแบ่งบทความ SEO ตามกลุ่มอายุของลูก เช่น คุณแม่ตั้งครรภ์, ทารกหลังคลอดช่วง 1 ปีแรก, ทารกระยะ 1-3 ปี, เด็กเล็กก่อนวัยอนุบาล, เด็กประถม, เด็กมัธยม เป็นต้น เพื่อให้ผู้ปกครองที่มีลูกอยู่ในช่วงวัยที่แตกต่างกัน สามารถที่จะคลิกเข้าไปชมข้อมูลจากเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว อันแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ทำธุรกิจเว็บไซต์และความใส่ใจที่ต้องการให้ผู้อ่านได้รับความสะดวกสบายอย่างที่สุด

จะเห็นได้ว่า การทำบทความ SEO ที่ดี ต้องใส่ใจผลิตให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ การหมั่นค้นหาข้อมูลที่มีความทันสมัย เพื่อทำให้บทความมีคุณภาพสูง อันจะทำให้อันดับ SEO ของเว็บไซต์ดีขึ้น และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ธุรกิจออนไลน์นั้นมีความเป็นมืออาชีพด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้มีรายได้เข้าสู่ธุรกิจที่มากขึ้นในระยะยาวด้วย

หลักการเขียนบทความ

มือใหม่ขายของออนไลน์รู้จัก SEO ดีหรือยัง

มือใหม่ขายของออนไลน์รู้จัก SEO ดีหรือยัง

การขายสินค้าออนไลน์เป็นช่องทางที่สะดวกและง่ายในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายจำนวนมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากทุกคนมีการพกพาโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร รวมไปถึงการสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นักธุรกิจมือใหม่ในวงการสินค้าออนไลน์ที่ต้องการประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน ควรจะรู้จักเทคนิคการตลาด SEO เพื่อใช้พัฒนาเว็บไซต์ให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ดีขึ้น

SEO พื้นฐานของการสร้างแบรนด์

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization นับว่าเป็นพื้นฐานในการสร้างรากฐานของแบรนด์ยุคใหม่ให้ยั่งยืน เนื่องจาก Search Engine อย่าง Yahoo, Bing และ Google มีการตั้งหลักเกณฑ์ในการประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ ซึ่งจะถูกประมวลวิเคราะห์ด้วยระบบ Algorithm ของ AI อัจฉริยะ ว่ามีคุณภาพเพียงพอที่จะนำเสนอสู่สายตาผู้ใช้ผู้ใช้บริการ Search Engine เหล่านั้นหรือไม่

หากเว็บไซต์ใด มีการพัฒนาให้สอดคล้องกับที่ Yahoo, Google และ Bing กำหนด ก็จะมีอันดับ SEO ที่สูง ทำให้ถูกแสดงในลำดับต้น ๆ ของหน้าแรกผลการค้นหา ซึ่งมีการวิจัยว่าสัมพันธ์กับยอดการสั่งซื้อ และการกลับมาซื้อซ้ำอีก ซึ่งย่อมส่งผลให้ธุรกิจออนไลน์ของแบรนด์ที่อยู่ลำดับต้น ๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว

การทำ SEO ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ keyword SEO เพื่อนำมาเขียนบทความหรือผลิตสื่อมัลติมีเดียที่ส่งเสริมการขาย การใช้ Keyword ที่สั้นเกินไปหรือ Mass Keyword จะไม่สามารถสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีเท่ากับ Niche Keyword

ตัวอย่างเช่น หากใช้ Keyword ว่า “รองเท้ากีฬา” (Mass Keyword) แทนที่จะใช้คำว่า “รองเท้าวิ่ง ผู้หญิง ยี่ห้อ ไนกี้ รุ่น” (Niche Keyword) จะทำให้พลาดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงรักสุขภาพได้ เปอร์เซ็นต์ที่จะขายได้ก็จะน้อยลง

กูรูการตลาดแนะนำให้ผู้เริ่มทำเว็บไซต์ออนไลน์ที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านโฆษณา ศึกษาการทำ SEO ด้วยตัวเอง เพราะทำให้ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่โฆษณาใด ๆ ให้แก่ Search Engine เพียงรักษามาตรฐานของคุณภาพบทความ SEO และมีความสม่ำเสมอในการอัปเดตข้อมูล ก็จะทำให้มีอันดับ SEO ที่สูงขึ้น มีศักยภาพในการแข่งขันเท่ากับร้านค้าออนไลน์ที่เปิดมาก่อนได้

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของการทำ SEO คือ ต้องใช้ระยะเวลาในการสะสมข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะธุรกิจที่มีอัตราการแข่งขันกันสูง เช่น ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว มักจะต้องใช้เวลาเห็นผล 6 เดือนถึง 1 ปี

ดังนั้น หากต้องการเพิ่มยอดการขายแบบเร่งด่วน เช่น จัดโปรโมชั่น นำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ กระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาล เช่น วันปีใหม่ วันคริสต์มาส ฯลฯ ก็ต้องเรียนรู้วิธีประชาสัมพันธ์แบบอื่นด้วย เช่น วิธี SEM (Search Engine Marketing) ที่ต้องซื้อพื้นที่โฆษณาบน Search Engine

การทำ SEO จึงเป็นเทคนิคที่ที่มือใหม่ขายของออนไลน์ควรเร่งศึกษาและนำไปปรับใช้ จะช่วยยกระดับคุณภาพของเว็บไซต์ให้ถูกวิเคราะห์ด้วย AI ได้ผลอันดับที่ดีขึ้นในระยะยาว ซึ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ร่วมกับขยายฐานลูกค้าไปพร้อมกัน

SEO พื้นฐานของการสร้างแบรนด์

ข้อดีของการเป็นเว็บไซต์ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ทำ SEO แล้วรุ่ง

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นเทคนิคการตลาดที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน ทั้งเว็บไซต์ของบริษัทขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างล้วนได้ประโยชน์ทั้งด้านยอดขายและจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากที่ทำเว็บไซต์ขนาดเล็ก อาจมีความกังวลว่าจะสามารถแข่งขันกับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ได้อย่างไร

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมข้อดีที่เว็บไซต์รายย่อยมี หากทำ SEO แล้วจะรุ่ง เพื่อเสริมความมั่นใจให้นักธุรกิจหน้าใหม่หรือรายเล็กหันมาพัฒนา SEO ให้กับเว็บไซต์มากขึ้น

1. เป็นเว็บไซต์ขนาดเล็ก มีการมีความยืดหยุ่นในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงมากกว่าเว็บไซต์ขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ต้องผ่านการคิดวิเคราะห์ รอการอนุมัติอีกหลายขั้นตอน เว็บไซต์ขนาดเล็กที่พร้อมปรับปรุงเว็บไซต์ตามหลัก SEO ตลอดเวลา จึงมีผลดีต่อการเปลี่ยนแปลงของอันดับ SEO ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

2. การใช้ Keyword ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น สำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็ก สามารถปรับเปลี่ยน Keyword จากทั่วไปที่เป็นคำสั้น ๆ มาเป็นวลีที่มีความยาว ซึ่งจะตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจากแนวคิดของบริษัทเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่เน้นขายสินค้าเพื่อคนส่วนใหญ่ จึงมักใช้ Keyword กว้าง การใช้ Keyword ที่เหมาะสมและตรงกับการสืบค้นของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง จึงทำให้มีเปอร์เซ็นต์การขายได้สูงขึ้นอย่างชัดเจน

3. ผลิตบทความคุณภาพได้หลากหลายแนว มีความทันสมัยและดึงดูดใจได้มากกว่า เพราะสามารถที่จะเขียนด้วยตัวเองหรือเลือก Freelance ที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเลือกทีมผลิตสื่อภาพ เสียงและคลิปวีดีโอประกอบในเว็บไซต์ ที่นักธุรกิจรายเล็กสามารถที่จะเลือกทีมงานได้ง่าย ๆ โดยดูจากผลงานที่ตรงใจ โดยไม่ต้องรอการอนุมัติหรือประชุมอีกหลายขั้นตอน

4. การประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ ผ่านการพูดคุยในห้องพันทิปหรือ Facebook สามารถทำได้ด้วยตัวนักธุรกิจผู้เป็นเจ้าของเว็บไซต์เอง สร้างภาพลักษณ์ที่จริงใจและเป็นกันเอง จึงมีโอกาสได้รับการสนับสนุนมากกว่าการประชาสัมพันธ์แบบเป็นกิจจะลักษณะทางสื่อโฆษณาที่เน้นการเข้าถึงคนกลุ่มใหญ่

5. การเลือกหรือปรับเปลี่ยน Web Hosting ที่เหมาะสม ผู้ทำเว็บไซต์รายย่อยสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว หากเกิดปัญหาเว็บไซต์ล่ม หรือใช้เวลาดาวน์โหลดข้อมูลนานจนเสียลูกค้าให้ผู้ประกอบการรายอื่น ต่างจากเว็บไซต์บริษัทใหญ่ที่ต้องรอการแก้ไขและพิจารณาหลายขั้นตอนกว่าจะได้ข้อสรุป

จากข้อดีของเว็บไซต์ขนาดเล็กที่กล่าวมา นับว่าเป็นจุดเด่นที่หากนำไปประยุกต์ใช้และมีการทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้นักธุรกิจรายย่อยทุกกลุ่มสินค้ามีอำนาจในการแข่งขันทางธุรกิจได้ดีขึ้น ขอเพียงมีความสม่ำเสมอในการพัฒนาเว็บไซต์และหมั่นอัปเดตสาระใหม่ ๆ เป็นประจำ ก็จะทำให้มียอดขายและจำนวนลูกค้าใกล้เคียงกับเว็บไซต์ธุรกิจขนาดใหญ่ได้อย่างแน่นอน

ข้อดีของการเป็นเว็บไซต์ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ทำ SEO แล้วรุ่ง

ทำไมนักธุรกิจรุ่นใหม่จึงต้องสนใจการทำเว็บไซต์ SEO

ทำไมนักธุรกิจรุ่นใหม่จึงต้องสนใจการทำเว็บไซต์ SEO

เนื่องจากเทคโนโลยีการสื่อสารและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตเกือบตลอดเวลา ทำให้เกิดความนิยมในการเลือกซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ คนรุ่นใหม่ที่สนใจทำธุรกิจทั้งในวัยเรียนและวัยทำงาน จึงต่างพากันเปิดเว็บไซต์ออนไลน์เพื่อสร้างรายได้ การทำ SEO จึงเป็นเทคนิคการตลาดและประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ยุคใหม่ ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะทำให้เว็บไซต์ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นเทคนิคที่นักการตลาดแนะนำว่าเหมาะสำหรับทุกคนและสินค้าทุกประเภท เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนสูงอย่างการโฆษณาหรือ SEM (Search Engine Marketing) โดยมีหลักการให้เน้นที่คุณภาพของเว็บไซต์ เพื่อให้ประโยชน์แก่ผู้บริโภคหรือผู้ที่คลิกเข้ามาชมข้อมูลในเว็บไซต์มากที่สุด ตัวอย่างเช่น

1. การนำ keyword ที่เหมาะสมมาใช้ในการสร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาน่าสนใจ มีข้อมูลที่ถูกต้องและมีความทันสมัย ไม่มีการลอกเลียนแบบจากที่อื่น จะทำให้ผู้เข้ามาชมรู้สึกประทับใจ คุ้มค่าเวลาและอยากกลับเข้ามาเพื่อหาข้อมูลหรือความรู้ใหม่ ๆ

2. การใช้งานได้ง่าย ทั้งในระบบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและระบบโทรศัพท์มือถือ ทำให้สะดวกในการที่จะหาข้อมูลและสั่งซื้อสินค้าได้เกือบทุกที่ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการเข้าหาคนรุ่นใหม่ที่ดีที่สุด

3. การเชื่อมโยง Connection กับเว็บไซต์ภายนอก ในลักษณะเป็นพันธมิตรที่ช่วยเหลือเกื้อกูล ทำให้มียอดขายดีขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น คุณขายสินค้าที่เกี่ยวกับกล้องดิจิทัล คุณก็สามารถที่จะแลกเปลี่ยนลิงก์หรือร่วมกันประชาสัมพันธ์กับเว็บไซต์ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับปริ้นเตอร์ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ เนื่องจากเป็นสินค้าหมวดไอที ที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกัน จะทำให้เกิดความสนุกสนานในการทำงานและได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าในวงกว้างขึ้น

4. การสร้างสื่อมัลติมีเดียโดยอาศัย keyword ที่น่าสนใจ ตรงกับที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายค้นหา หากทำเพจใน Facebook ก็สามารถเช็คได้จากการติด # (hashtag) คู่กับ Keyword ต่าง ๆ หากคำใดมีจำนวนการใช้มาก ก็น่าหยิบยกมาทำคลิปมากกว่าคำที่แทบไม่มีการใช้ # เลย และเมื่อทำคลิปแล้วควรนำไปประชาสัมพันธ์ในห้องแชทหรือเพจต่าง ๆ ด้วย เช่น กลุ่มใน Facebook ที่มีลูกค้ารวมตัวกัน ก็จะยิ่งได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ และมียอดขายเพิ่มมากขึ้นด้วยเทคนิคที่นักการตลาดแนะนำว่าเหมาะสำหรับทุกคน

จะเห็นได้ว่าเทคนิคการทำ SEO ที่กล่าวมาล้วนเป็นกลยุทธ์สมัยใหม่ที่ทำให้เว็บไซต์มีความน่าสนใจ ทั้งสามารถเพิ่มยอดขายและสร้างฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นอย่างเห็นผลได้จริง หวังว่าบทความนี้จะเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้สนใจการทำธุรกิจยุคใหม่ ให้สร้างเว็บไซต์ SEO ที่มีคุณภาพ เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เพื่อให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น