วิธีทำ SEO ที่ควรเลี่ยง

วิธีทำ SEO ที่ควรเลี่ยง

ในโลกของ SEO มีเทคนิคบางอย่างที่อาจส่งผลเสียต่ออันดับเว็บไซต์ของคุณแทนที่จะช่วยอันดับได้ สิ่งเหล่านี้มักเรียกว่าเทคนิค “หมวกดำ” หรือ “สแปม” และควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ วิธีการทำ SEO ที่สำคัญที่คุณควรหลีกเลี่ยง

1.การใช้คำหลักในทางที่ผิด

การใช้คำหลักในทางที่ผิด: การอัดคำหลักในเนื้อหาของคุณอย่างไม่เป็นธรรมชาติทำให้ผู้อ่านดูเทอะทะและไม่เป็นที่พอใจ เครื่องมือค้นหายังสามารถลงโทษคุณได้ในเรื่องนี้

รูปแบบการกำหนดเป้าหมายจากคำหลัก: อย่าสร้างหน้าเว็บหลายหน้าโดยกำหนดเป้าหมายคำหลักเดียวกันในเวอร์ชันที่แตกต่างกันเล็กน้อย มุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงในหัวข้อที่กว้างขึ้น

คำหลักที่ทำให้เข้าใจผิด: อย่าใช้คำหลักที่ไม่สะท้อนถึงธีมของเนื้อหาของคุณอย่างถูกต้อง สิ่งนี้หลอกลวงผู้ใช้และทำให้ความน่าเชื่อถือของคุณลดลง

2.ปัญหาเนื้อหา

เนื้อหาน้อย: หน้าเพจที่มีเนื้อหามีคุณค่าน้อยที่สุดไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา มุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาเชิงลึกที่ให้ข้อมูลที่ผู้ใช้จะมีส่วนร่วม

การหมุนเวียนเนื้อหา: การเขียนเนื้อหาที่มีอยู่ใหม่โดยอัตโนมัตินั้นมีคุณภาพต่ำและเครื่องมือค้นหาตรวจพบได้ง่าย สร้างเนื้อหาต้นฉบับที่มีคุณค่าไม่ซ้ำใคร

ข้อความหรือลิงก์ที่ซ่อน: การซ่อนข้อความหรือลิงก์จากผู้ใช้โดยที่เครื่องมือค้นหามองเห็นข้อความหรือลิงก์นั้นเป็นกลวิธีบิดเบือนที่อาจทำให้คุณถูกลงโทษ

3.การจัดการลิงก์

การซื้อลิงก์: การซื้อลิงก์ย้อนกลับขัดต่อหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา และอาจส่งผลเสียต่ออันดับของคุณอย่างรุนแรง สร้างลิงก์ย้อนกลับแบบออร์แกนิกผ่านเนื้อหาและการเข้าถึงที่มีคุณภาพ

รูปแบบลิงก์: การเข้าร่วมในการแลกเปลี่ยนลิงก์หรือรูปแบบการสร้างลิงก์ปลอมอื่นๆ อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกตั้งค่าสถานะได้ มุ่งเน้นที่การรับลิงก์ย้อนกลับตามธรรมชาติจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง

ความคิดเห็นที่เป็นสแปม: การแสดงความคิดเห็นที่ไม่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์อื่นด้วยลิงก์ย้อนกลับไปยังเว็บไซต์ของคุณเองนั้นไม่ได้ผลและอาจถูกมองว่าเป็นสแปม มีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างจริงใจและให้คุณค่าในความคิดเห็นของคุณ

4.แนวทางปฏิบัติอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง

การปิดบัง: การแสดงเนื้อหาที่แตกต่างกันต่อเครื่องมือค้นหาและผู้ใช้ถือเป็นการหลอกลวงและอาจทำให้คุณถูกลงโทษได้

SEO เชิงลบ: การพยายามทำลายอันดับของคู่แข่งด้วยกลยุทธ์ที่ผิดจรรยาบรรณนั้นเป็นอันตรายและขัดต่อหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา

การเพิกเฉยต่อ SEO บนมือถือ: เนื่องจากการค้นหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์มือถือ การละเลยการเพิ่มประสิทธิภาพบนมือถือจะส่งผลเสียต่อการมองเห็นของคุณอย่างมาก

โปรดจำไว้ว่าแนวทางปฏิบัติ SEO ที่ดีที่สุดมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง การให้คุณค่าแก่ผู้ใช้ และสร้างความไว้วางใจและอำนาจอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการหลีกเลี่ยงเทคนิคที่เป็นอันตรายเหล่านี้และมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ผู้ใช้ที่แท้จริง คุณจะกำหนดเว็บไซต์ของคุณบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ SEO ในระยะยาว

 

On-page SEO ที่ควรทำ ดันอันดับเว็บให้พุ่ง

On-page SEO ที่ควรทำ ดันอันดับเว็บให้พุ่ง

การจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้แพร่หลายและตรงจุดทางอินเตอร์เน็ต จำเป็นต้องพึ่งพาการตลาดออนไลน์ที่เหมาะสม หนึ่งในวิธีการที่เป็นที่นิยมและให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุนคือการทำ SEO ซึ่งประเภทของ SEO ที่มีความเกี่ยวของกับการพัฒนาสื่อของแบรนด์ให้ติดอันดับ สามารถทำได้ด้วยการพัฒนาเนื้อหาบนเว็บไซต์ของตนเองให้สอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอับดับของ Google เรียกว่า On-page SEO ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

  1. ปรับ URL ให้อ่านง่ายและน่าเชื่อถือ

หลายเว็บไซต์อาจมีการปล่อย URL ให้เป็นภาษามนุษย์ต่างดาว จึงทำให้มีความไม่น่าเชื่อถือหรือสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งาน เพราะพวกเขาไม่สามารถเดาได้ว่าหน้าเพจนี้มีความเกี่ยวข้องกับอะไร ถ้ามีการสร้างลิงค์ด้วย URL แบบนี้ หลายคนอาจจะเลือกที่จะเลื่อนผ่านและไม่กดเข้ามาดูเนื้อหาเลย

  1. สื่อที่หลากหลายบนหน้าเว็บ

หน้าเว็บควรมีการออกแบบให้น่าดูและน่าสนใจ หนึ่งวิธีที่ทำได้คือการสร้างสรรค์สื่อที่หลากหลายบนหน้าเพจ ทั้งการใส่เนื้อหาที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ ตรงไปตรงมา ใส่ภาพที่มีความเกี่ยวข้อง หรือบางเว็บอาจจะเลือกใช้สื่อในรูปแบบวิดีโอ สิ่งสำคัญคือเนื้อหาทั้งหมดที่ใส่มาควรสอดคล้องกัน และตรงต่อความต้องการของลูกค้า

  1. จำนวนคำของเนื้อหา

บทความที่ใช้ในการทำ SEO ไม่ได้มีข้อบังคับตายตัวว่าต้องมีจำนวนกี่คำ แต่ตามข้อแนะนำของผู้มีประสบการณ์ จำนวนคำที่เหมาะสมคือประมาณ 400-800 คำ เพราะทำให้เนื้อหาอ่านง่าย ไม่ยาวจนน่าเบื่อ หรือสั้นจนอ่านไม่เข้าใจ

  1. มีคีย์เวิร์ดที่ดีและจำนวนเหมาะสม

เนื้อหาที่ดีควรมีการกระจายตัวของคีย์เวิร์ดอย่างสม่ำเสมอ และถูกใส่เข้าไปในเนื้อหาอย่างสมเหตุสมผล ไม่ใช่ใส่ไปโดยไม่สนใจความหมายที่ต้องการสื่อ คีย์เวิร์ดที่ใช้ควรเป็นคำ วลี หรือประโยคที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และมีลำดับการเสิร์จหาที่ดี สิ่งนี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้

  1. มีการเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

เว็บไซต์ที่ดีควรมีการเชื่อมโยงที่หลากหลายกับโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Twitter Pinterest YouTube เพราะจะทำให้สามารถแชร์ต่อได้ง่าย ดูน่าสนใจ และยังทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้นหลายช่องทาง นอกจากนั้นควรให้ความสนใจกับเนื้อหาที่น่าสนใจเพื่อให้มียอด Like และ Comment มากขึ้น

  1. ใช้งานได้ง่ายบนมือถือ

ในปัจจุบันไม่มีลูกค้าคนไหนไม่ใช้มือถือ แถมหลายคนใช้มือถือในการทำงาน หาข้อมูล และซื้อสินค้าบริการ ทำให้เว็บไซต์ที่สนใจแค่รูปลักษณ์ของเนื้อหาบน PC ไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานบนมือถือ ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายและสวยงามบนมือถือจึงมีความสำคัญมาก

ทั้ง 6 ข้อแนะนำนี้เป็นตัวอย่างของ On-page SEO ที่สามารถดันอันดับการค้นหาให้สูงขึ้นได้ สิ่งนี้จะนำไปสู่ยอดขายปัง ๆ อย่างที่ผู้ประกอบการฝันไว้ ดังนั้นต้องใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านี้ และสร้างเนื้อหา SEO ที่มีคุณภาพเพื่อการดึงดูดลูกค้าให้อยู่หมัด

Google search console สำคัญอย่างไรต่อการทำเว็บไซต์ SEO

การทำเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ในปัจจุบันจะประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น ทั้งด้านยอดขายและการขยายฐานลูกค้า ต้องอาศัยการทำเป็นระบบ SEO หรือ search engine optimization ซึ่ง Google search console เป็นเครื่องมือที่ Google ให้บริการฟรีสำหรับคนทำเว็บไซต์ เพื่อสามารถเช็คคุณสมบัติต่าง ๆ จากผลการวิเคราะห์โดยระบบ algorithm ทำให้มีทิศทางในการพัฒนาเว็บไซต์อย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น

Google search console ในอดีตเรียกว่า Google webmaster tools เป็น เครื่องมือที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย เพียงเข้าเว็บไซต์ Google search console แล้วใส่โดเมนและ URL ของเว็บไซต์คุณ (เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเว็บไซต์ออนไลน์) หลังจากนั้นทำการติดตั้ง ด้วย html หรือ ปลั๊กอิน yoast SEO ก็จะสามารถใช้งานได้

โดยตัวเลขและกราฟต่าง ๆ ที่แสดงใน Google search console มีประโยชน์ในการนำไปพัฒนาเว็บไซต์ในหลากหลายด้าน ได้แก่

Performance เป็นกราฟพร้อมตัวเลขอย่างละเอียด ที่แสดงผลย้อนหลังนานถึง 16 เดือน ให้แก่เจ้าของเว็บไซต์ เพื่อให้เห็นว่ามีการพัฒนามาอย่างถูกทางหรือไม่ ซึ่งจะแสดงผลทั้ง จำนวนการคลิกต่อการปรากฏผลในหน้าต่างการสืบค้น (CTR หรือ click through rate) ภูมิภาคหรือประเทศของผู้ที่สนใจคลิกเข้ามาชมข้อมูลในเว็บไซต์ เป็นต้น

URL inspection เป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับการตรวจสอบโดย Google ครั้งล่าสุดเมื่อใด ยิ่งมีการปรับปรุงเว็บไซต์บ่อย ๆ ตามหลัก SEO ก็จะยิ่งมีโอกาสถูกจัดอันดับ SEO ให้สูงยิ่งขึ้น (มักทำให้มียอดขายที่ดีตามมาด้วย) ทั้งนี้ยังมีส่วนแสดงหมายเหตุ ที่บอกด้วยว่ามีประเด็นใดที่ Google แนะนำว่าควรปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อการพัฒนาต่อยอดได้อย่างตรงจุดด้วย

Mobile usabilities เป็นตัวเลขจากการวิเคราะห์ว่า เว็บไซต์ของคุณนั้นถูกใช้งานผ่านระบบโทรศัพท์มือถือมากน้อยเพียงใด เหมาะสมกับการเข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมการหาข้อมูลและซื้อสินค้าออนไลน์มากหรือน้อย ถ้าค่า mobile usability สูงก็จะสัมพันธ์กับโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์มากยิ่งขึ้น อย่างเช่นเว็บไซต์เล่นเกมส์ หรือ เว็บคาสิโนทั่วไปอย่าง Hero88 ก็จำเป็นที่จะต้องเข้าถึงสมาร์ทโฟน เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเล่นผ่านมือถือกันเป็นจำนวนมาก หรือไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์อื่นๆก็เช่นกัน ถ้าหากเข้าถึงสมาร์ทโฟนได้ง่ายก็จะสะดวกต่อผู้ใช้ ซึ่งตอบโจทย์และจะนำไปสู่ความสำเร็จอันสูงสุดเลยทีเดียว

Security Issues เป็นค่าตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่ามีไวรัสหรือ malware ที่เป็นอันตรายหลบซ่อนอยู่ในเว็บไซต์คุณหรือไม่ รวมถึงปัญหาทางเทคนิคของระบบคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ที่อาจจะกระทบต่อการส่งผ่านข้อมูลหรือระบบรักษาความปลอดภัยในเว็บไซต์ (เทียบได้กับการทำหน้าที่เป็นระบบ antivirus ของเว็บไซต์เลยทีเดียว)ประโยชน์ในการนำไปพัฒนาเว็บไซต์

จะเห็นได้ว่า Google search console เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง สามารถใช้เพื่อการพัฒนาเว็บไซต์ในระบบ SEO อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มยอดผู้เข้าชมข้อมูล การสั่งซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นเป้าหมายทางธุรกิจที่ทุกคนต้องการ

เราหวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ทุกท่าน ใส่ใจการเรียนรู้เทคนิค SEO ควบคู่กับ Google search console เพื่อการพัฒนาเว็บไซต์ได้อย่างมีทิศทาง และทำให้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์มากยิ่งขึ้น

คนทำเว็บไซต์ SEO 2019 รู้จัก algorithm

คนทำเว็บไซต์ SEO 2019 รู้จัก algorithm ของ Google หรือยัง

SEO หรือ search engine optimization เป็นเทคนิคที่ทำให้เว็บไซต์ทางธุรกิจของคุณ สามารถถูกสืบค้นได้ง่ายยิ่งขึ้นจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่พิมพ์ keyword ลงไปใน search engine ชื่อดังอย่าง Google การทำ SEO จะมีประสิทธิผลเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับ Data ที่อัพเดทลงไปในเว็บไซต์ การเชื่อมโยงลิงค์และโครงสร้างของเว็บไซต์คุณที่ต้องมีต้องมีความทันสมัย วิเคราะห์ง่าย ด้วย algorithm เฉพาะตัวของ Google

คนที่จะทำเว็บไซต์ SEO ให้ประสบความสำเร็จในปี 2019 จึงจำเป็นต้องรู้จักกับ algorithm ที่ Google ใช้ในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

คนทำเว็บไซต์ SEO 2019 รู้จัก algorithm ของ Google

PANDA แพนด้า

ระบบการประมวลผลที่จะเป็นหาว่าเว็บเพจใดใช้เนื้อหาซ้ำซ้อนหรือ Copy จากเว็บไซต์อื่น รวมถึงการทำ spam keyword คือใส่ keyword ซ้ำโดยไม่จำเป็นจนทำให้ รบกวนสายตาผู้อ่าน ทำให้เนื้อความไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นหากไม่อยากโดนจับได้ด้วย PANDA แล้วทำให้อันดับการสืบค้นต่ำลง ในบทความที่ความยาวประมาณ 1,000 คำ ควรจะมี keyword เดียวที่กระจายอยู่ทั่วไปในบทความ 3-4 ครั้ง เท่านั้น จึงจะไม่ถูกวิเคราะห์ว่าเป็น spam website

PENGUIN เพนกวิน

เป็น algorithm ที่ใช้ตรวจจับลิงค์ภายนอก หรือ Backlink ที่เชื่อมโยงมาสู่เว็บไซต์ SEO ของคุณ หากเป็นลิงก์ที่คุณภาพต่ำไม่ให้ประโยชน์แก่ผู้อ่าน ไม่เชื่อมโยงกับ keyword ที่ผู้อ่านใช้สืบค้น ก็จะทำให้อันดับของเว็บไซต์คุณตกลงไปด้วย ทางที่ดีต้องวิเคราะห์คุณภาพของ Backlink ก่อนทำเสมอ ไม่ควรซื้อ Backlink ที่มีคุณภาพต่ำเพียงเพื่อจะเอาปริมาณทำ SEO เท่านั้น

PIRATE โจรสลัด

เป็นระบบที่ใช้ตรวจจับเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น มีบริการให้ดาวน์โหลดฟรีหนัง และเพลงอย่างผิดกฎหมาย หากคุณมีของต้องห้ามละเมิดลิขสิทธิ์ก็จะถูกโจรสลัด AI จัดการอย่างแน่นอน

PIGEON นกพิราบ

เป็น Algorithm ที่ใช้ในการตรวจจับการระบุที่อยู่ของบริษัททางธุรกิจบนเว็บไซต์ออนไลน์ หากมีการระบุไม่ตรงตำแหน่งกัน เช่น บริษัท AAA ในเพจที่ 1 อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ในเพจที่ 2 อยู่ที่เชียงราย อย่างนี้ย่อมไม่น่าเชื่อถือและจะไม่สามารถผ่านหูผ่านตาของนกพิราบ AI  อัจฉริยะนี้ไปได้

FRED เฟรด

คือ ระบบการตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีการขายโฆษณามากเกินไป อันสัมพันธ์กับความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์นั้น ๆ FRED จะทำให้ลำดับของเว็บไซต์ที่มี affiliate link ตกไปอยู่อันดับล่าง ๆ ดังนั้นการมีโฆษณาอยู่มากเกินไป จะถูกตรวจเจอด้วย FRED ซึ่งไม่เป็นผลดีกับธุรกิจของคุณแน่นอน

ผู้ที่ทำเว็บไซต์ SEO ในปี 2019 จึงควรระมัดระวังคุณภาพของ Content และการปรับปรุงส่วนโครงสร้างอื่นๆ ที่เข้าข่ายเป็นสแปมเว็บไซต์ ที่จะถูกประเมินค่าให้ต่ำลงและทำให้ลดโอกาสในการแข่งขันทางการตลาดกับคู่แข่งทางการค้าอื่น ๆ ในกลุ่มสินค้าและบริการแบบเดียวกัน เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้ข้อคิดและช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์ของธุรกิจทุกท่านสอดคล้องกับหลักการของ SEO มากยิ่งขึ้น

คนทำเว็บไซต์-SEO-2019-รู้จัก-algorithm-ของ-Google-หรือยัง

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร เรียกลูกค้า

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร เรียกลูกค้าดี

การทำเว็บไซต์ SEO ที่มีคุณภาพเพื่อเรียกกลุ่มคนเป้าหมายให้เข้ามาชมข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าและบริการจากเว็บไซต์ของคุณได้นั้น ในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องศึกษาการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในแต่ละวันที่มีมหาศาล แต่จะทำอย่างไร จึงจะได้เว็บไซต์ SEO ที่เรียกลูกค้าได้ดี เรามาดูเทคนิคกัน

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร เรียกลูกค้าดี

เว็บไซต์ SEO คือ อะไร

การปรับเว็บไซต์ธรรมดาของคุณให้เป็นเว็บไซต์ SEO คือ การเพิ่มเติมคีย์เวิร์ด SEO ในส่วนต่าง ๆ มีการปรับโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ มีการเพิ่มลิ้งค์จากภายนอกที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการขายของสินค้าคุณได้จริง จึงจะทำให้เว็บไซต์ SEO ถูกสืบค้นได้เป็นอันดับต้น ๆ ในหน้าแรกของ search engine ที่แน่นอนว่าจะมีผู้คลิกเข้ามาอ่านเนื้อหา และเลือกซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์คุณมากขึ้นด้วย

จะทำอย่างไร ให้เว็บไซต์ SEO เรียกลูกค้าดี

การจะเรียกลูกค้าหรือทำให้จูงใจผู้อ่านให้เข้ามาชมข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณ จำเป็นต้องมีการปรับส่วนประกอบในเว็บไซต์ ดังนี้

1. มี keyword SEO ในส่วนหัวเรื่องที่คุณนำเสนอ เช่น คีย์เวิร์ดว่า เกมส์ ก็ต้องมีคำว่าเกมส์ในหัวข้อ เช่น เกมส์อีสปอร์ตในปี 2019 มีอะไรใหม่ เป็นต้น

2. มีการใส่คีย์เวิร์ด SEO ทั้งในส่วนย่อหน้าแรก หรือที่เรียกว่า description ส่วนเนื้อหาหลัก และส่วนปิดท้าย หรือบทสรุปของเรื่อง ควรกระจายทั่วไป และไม่ควรซ้ำมากจนระบบ algorithm ของ search engine ตีความหมายว่าเป็น spam หรือบทความขยะที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกลดอันดับลงไปด้วย

3. ส่วนนี้สำคัญมากที่สุด คือ เนื้อหาหลักที่ต้องตรงกับโจทย์ หรือหัวข้อที่คุณนำเสนอไปตอนต้น ไม่ควรหลุดประเด็นจากโครงเรื่องที่วางไว้ หรือมีส่วนของโฆษณาส่งเสริมการขายที่มากเกินไป จนทำให้ผู้อ่านรู้สึกเสียเวลา บทความขาดความน่าเชื่อถือ และอาจทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเลิกเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณอีกก็เป็นได้

4. การตั้งชื่อของ URL address ก็เป็นส่วนที่ต้องให้ความใส่ใจ เนื่องจากหลายท่านตั้งชื่อโดยใช้คีย์เวิร์ดที่เป็นภาษาไทยในส่วนนี้ การผิดเพี้ยนของสระ ตัวอักษร วรรณยุกต์ แม้เพียงตัวเดียว ก็ทำให้หน้าของบทความนั้น ๆ ไม่สามารถถูกเปิดได้ ทำให้การลงทุนด้านงานเขียนสูญเปล่า คุณจึงควรใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่มีความหมายตรงกับ keyword ที่ชัดเจนที่สุดในการตั้งชื่อ url address เช่น คีย์เวิร์ดว่าดอกไม้ ก็ควรใช้ว่า flower รองเท้า ก็ควรใช้ว่า shoe เป็นต้น

ทำเว็บไซต์ SEO เรียกลูกค้าดี

การทำเว็บไซต์ SEO ให้เรียกลูกค้าเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องมีความสม่ำเสมอในการผลิต content และมีทีมงานที่ดูแลโครงสร้างของเว็บไซต์ให้มีคุณสมบัติตรงตามที่ search engine กำหนดเสมอ

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร ให้ติดอันดับท็อป

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร ให้ติดอันดับท็อป

การทำธุรกิจออนไลน์ให้สำเร็จทางด้านชื่อเสียงและยอดขาย จำเป็นต้องมีการเว็บไซต์ให้ตรงตามหลักเกณฑ์ของระบบสืบค้นหรือ search engine ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือสร้างสรรค์งานบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุด

ในส่วนของเว็บไซต์ SEO นี้ การทำให้สามารถติดอันดับท็อปบนเครือข่ายระบบสืบค้นอย่าง yahoo หรือ google ได้จะสัมพันธ์กับยอดขายอย่างมากใน 5 อันดับแรก โดยเฉพาะในอันดับที่ 1 ที่มีมูลค่าทางการตลาดมากกว่าอันดับ 2 ถึงเกือบเท่าตัว

ทำเว็บไซต์ SEO ให้ติดอันดับท็อป

การจะทำให้เว็บไซต์ SEO ถูกจัดเป็นหนึ่งในลำดับต้น ๆ นั้น ต้องมีองค์ประกอบ ต่อไปนี้

1. ต้องหมั่น update เนื้อหา รูปภาพประกอบ คลิปวิดีโอ ที่น่าสนใจ เสริมสร้างการขาย หรือให้คุณค่าแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งแน่นอนว่าการใส่คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมในบทความ SEO หรือใช้ในการตั้งชื่อภาพจำเป็นต้องผ่านการวิจัยด้วยโปรแกรมที่มีความทันสมัยอยู่เสมอด้วย

2. การไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ เช่น การฝึกใช้ระบบ CMS หรือ content management system เพื่อเอื้ออำนวยต่อการบริหารจัดการเนื้อหาในเว็บไซต์รุ่นใหม่ อย่าง เช่น word press เป็นการเพิ่มความสะดวกและฉับไวในการทำธุรกิจออนไลน์ ลดการใช้ทรัพยากรบุคคล และลดภาระค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยในการดูแล website ได้ด้วย

3. การให้เครดิตแก่เว็บไซต์อื่นที่มีการแชร์เนื้อหา ภาพ คลิป หรือการเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่ให้ความน่าเชื่อถือเสริมสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า หรือการทำ backlink ที่มีคุณภาพ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มอันดับในการสืบค้นและสร้างพันธมิตรที่ดีในวงการธุรกิจออนไลน์ด้วย

4. การนำบทความไปแชร์ต่อในโซเชียล เช่น facebook และการซื้อพื้นที่โฆษณาในเว็บไซต์เหล่านี้ จะช่วยในการโปรโมตธุรกิจให้มีคนรู้จักมากขึ้น เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่าเป็นการเพิ่ม traffic ส่งผลต่ออันดับการสืบค้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการขายผ่านหลากหลายช่องทางมากขึ้นด้วย

5. การสร้างส่วนหัวข้อ (title) และส่วน description ให้น่าสนใจ โดยไม่ละทิ้งคีย์เวิร์ด SEO จะทำให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะคลิกเข้ามาอ่านส่วนเนื้อหาภายในเว็บไซต์ดีหรือไม่ การเลือกหัวข้อ title ที่ไม่ยาวเกินไป มีลักษณะเป็นการตั้งคำถาม หรือยกประเด็นที่กำลังอยู่ในกระแสสังคม เช่น ภาษีธุรกิจออนไลน์สนับสนุนหรือซ้ำเติมเศรษฐกิจรากหญ้า ? โครงการกู้ยืมสินเชื่อซื้อบ้าน ปี 2019 คิดดีหรือยังก่อนเป็นหนี้ ? ฯลฯ เหล่านี้จะสามารถดึงดูดใจผู้อ่านให้เข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์ได้มากกว่าการสร้างประโยคบอกเล่าแบบเดิม ๆ

ทำเว็บไซต์ SEO อย่างไร ให้ติดอันดับ

การทำเว็บไซต์ขายสินค้าและบริการใน ปี 2019 เป็นอีกปีหนึ่งที่ต้องแข่งขันด้านคุณภาพ และความรวดเร็วในการปรับตัวสูง เพื่อประโยชน์แก่ลูกค้าและผลลัพธ์ทางธุรกิจที่น่าพอใจ การทำเว็บไซต์ SEO ต้องพิจารณาความเหมาะสมและเพิ่มเติมความเป็นเอกลักษณ์ดึงดูดใจที่แปลกใหม่สู่ผู้อ่านกลุ่มเป้าหมาย จึงจะมีโอกาสทำให้เว็บไซต์ธุรกิจก้าวขึ้นสู่อันดับท็อปในการสืบค้นออนไลน์